เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 24 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองของกลุ่ม ว่าจะไปสังกัดพรรคใดหรือจัดตั้งพรรคใหม่หรือไม่ โดยระบุว่า สำหรับตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจไปสังกัดพรรคการเมืองใด ขณะที่สมาชิกบางคนในกลุ่มยังคงอยู่กับพรรคเดิม จึงต้องรักษามารยาทในการแสดงความเห็น เพราะทุกคนยังต้องลงพื้นที่พบปะประชาชน

นายสุชาติกล่าวว่า ภายในระยะเวลาอีก 4 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มได้ตกลงกันไว้ ยังเพียงพอสำหรับการย้ายสังกัดพรรคภายในกรอบ 30 วันที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ กลุ่ม 16 ส.ส. เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อเป็นกำลังสนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญและสร้างความเท่าเทียมให้กับประชาชน

เมื่อมีการสอบถามถึงความชัดเจนในการเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย นายสุชาติกล่าวว่า มีการหารือกันทุกวัน และหากจะเข้าร่วมพรรคใดต้องพิจารณาไม่ให้เกิดการทับซ้อนกับพื้นที่ของผู้สมัครเดิมในแต่ละเขต ซึ่งในกรณีที่มีเป้าหมายจะลงสมัครในพื้นที่ที่อาจมีปัญหา จะต้องมีการเจรจาเพื่อหาข้อสรุป

เมื่อถูกถามย้ำว่า พื้นที่ของกลุ่ม 16 ส.ส. มีแนวโน้มจะทับซ้อนกับพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายสุชาติชี้แจงว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คน มี 1 เขตเลือกตั้ง จึงไม่เกิดการทับซ้อนโดยตรง แต่อาจมีแกนนำในบางจังหวัดที่ต้องพูดคุยทำความเข้าใจก่อน หากมีสมาชิกกลุ่มเข้าไปร่วมงานด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและหาพื้นที่ที่เหมาะสมแทน

ในประเด็นที่ว่า กลุ่มอาจตัดสินใจตั้งพรรคใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการทับซ้อนกับพรรคอื่น นายสุชาติกล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุย เพราะบางพื้นที่หากสังกัดพรรคภูมิใจไทยจะมีความได้เปรียบในการหาเสียง แต่บางพื้นที่อาจมีความซับซ้อนในการจัดคนลงสมัครรับเลือกตั้ง

ในส่วนของคำถามที่ว่า ภายในระยะเวลา 4 เดือน จะมีการประกาศให้ประชาชนทราบหรือไม่ว่าสมาชิกกลุ่ม 16 ส.ส. จะสังกัดพรรคใด นายสุชาติกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องประกาศ เนื่องจากการเข้าร่วมรัฐบาลในขณะนี้ มุ่งเน้นไปที่การแสดงผลงานภายในระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถจับต้องได้

นายสุชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า นายอนุทินเป็นนักการเมืองที่รู้ความต้องการของประชาชน เข้าใจระบบบริหารราชการแผ่นดิน ระบบบริหารพรรคการเมือง และระบบกฎหมาย เชื่อว่าในระยะเวลา 4 เดือน รัฐบาลจะสามารถสร้างผลงานได้ และประชาชนจะเลือกผู้แทนที่สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้เป็นหลัก

สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 16 ส.ส. ว่าจะเดินหน้าพร้อมกันทั้งกลุ่มหรือแยกกันตามสถานการณ์ นายสุชาติกล่าวว่า มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน เนื่องจากสมาชิกมีความสัมพันธ์กันในฐานะพี่น้อง

ในประเด็นที่ว่าจะมีสมาชิกใหม่เข้าร่วมกลุ่ม 16 ส.ส. หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า มีบางส่วนที่แสดงความสนใจเข้าร่วม แต่เป้าหมายของกลุ่มไม่ได้อยู่ที่จำนวนสมาชิกมากหรือน้อย แต่อยู่ที่คุณภาพของบุคคลและความสัมพันธ์แบบพี่น้อง ซึ่งการเดินทางมาถึงจุดนี้อาจมีสมาชิกเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ตนเองกังวลเรื่องคำพูด หากพูดไปแล้วแต่ไม่สามารถทำตามได้ก็อาจเสียความน่าเชื่อถือ

เมื่อมีการสอบถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอาจกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก นายสุชาติกล่าวว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นไว้จะต้องเป็นไปตามนั้น เพราะนักการเมืองทุกคนหากไม่สามารถรักษาคำพูดไว้ได้ ก็จะหมดความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชน

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการจัดสรรโควตารองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้กับกลุ่ม 16 ส.ส. นายสุชาติกล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยในประเด็นนี้ และไม่ใช่เรื่องที่กลุ่มให้ความสำคัญในขณะนี้