กัดไม่ปล่อย! เทพไทซัด พท. ดิสเครดิต ปชน. หวังพลิกเกม
ข่าวการเมือง

กัดไม่ปล่อย! เทพไทซัด พท. ดิสเครดิต ปชน. หวังพลิกเกม

วันที่ 22 กันยายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ เทพไท-คุยการเมือง ในหัวข้อ ฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจกันเอง โดยกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังเกิดขึ้นว่า ขณะนี้บทบาทของพรรคฝ่ายค้านมีความขัดแย้งชัดเจน ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีจำนวนสมาชิกใกล้เคียงกัน และมีการให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันในลักษณะเหน็บแนม เยาะเย้ย ถากถาง รวมทั้งดิสเครดิตซึ่งกันและกันระหว่างแกนนำทั้งสองพรรค

ระบุโพสต์ว่า การเมืองช่วงนี้ เราจะเห็นบทบาทของพรรคฝ่ายค้าน มีความขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้ง 2 พรรคเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีสมาชิกจำนวนใกล้เคียงกัน มีการเกิดวิวาทะกันให้สัมภาษณ์ในลักษณะเหน็บแนม เยาะเย้ย ถากถาง รวมไปถึงการดิสเครดิตกัน ระหว่างแกนนำทั้ง2พรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนนำจากพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะพาดพิงถึงพรรคประชาชน

แม้แต่ในเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังโพสต์แสดงจุดยืนความเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง แต่ไม่ส่งสมาชิกเข้าไปเป็นกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก โดยปกติการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน ไม่จำเป็นต้องมีเอกภาพ หรือเห็นเหมือนกันในทุกประเด็น สามารถเห็นต่างกันได้ แต่การมีคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน จำเป็นต้องมี เพราะจะได้ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

แต่การแสดงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยไม่สังฆกรรม ไม่ส่งสมาชิกไปเป็นวิปฝ่ายค้าน เป็นเรื่องที่แปลก ก็ซึ่งน่าจะมาจากเหตุผลทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทยอย่างแค้นฝังหุ่น หวังจะเอาคืน หลังจากพรรคประชาชนไปลงนามใน MOA ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง และเห็นได้จากการที่พรรคเพื่อไทยอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็แสดงบทบาทอภิปรายเน้นหนักไปที่พรรคประชาชนมากกว่าตัวนายกรัฐมนตรี คือนายอนุทินเสียอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก

จนถึงตอนนี้จัดตั้งรัฐบาลเสร็จแล้ว ก็ยังอภิปรายให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นกระทบกระแทกไปยังพรรคประชาชนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหตุผลสำคัญน่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยต้องการดิสเครดิตพรรคประชาชน เพื่อหวังดึงคะแนนเสียงของพรรคประชาชน ที่ได้ไปจากกรณีการกระโดดข้ามขั้ว หรือตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทยในการร่วมรัฐบาลครั้งแรก ทำให้มวลชนหรือฐานคะแนนเปลี่ยนมาอยู่ที่พรรคประชาชนเป็นส่วนใหญ่

การหยิบยกเรื่องพรรคประชาชนโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี และลงนามใน MOA ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา พรรคประชาชนจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งหวังที่จะดึงคะแนนนิยมคืนจากพรรคประชาชนให้ได้ เพราะฉะนั้นจากนี้ไป จะเห็นบทบาทในลักษณะช่วงชิงการนำของฝ่ายค้านของ2พรรค ในลักษณะสร้างดาวกันคนละดวง

แต่เชื่อว่า ถ้า 2 พรรคจับมือกันได้ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกัน โดยไม่หวังผลทางการเมืองมากนัก อาจทำให้อายุของรัฐบาลอนุทิน ไม่สามารถอยู่ตลอดรอดฝั่ง4เดือนได้

ข่าวที่คุณอาจสนใจ