ชูวิทย์ มองส้มจับมือน้ำเงิน การหลอกลวงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการเมืองไทย ลั่น พรรคประชาชน ปฏิเสธไม่ได้ ต้องรับผิดชอบต่อนายกฯ และ ครม.ที่โหวตมา
ข่าวการเมือง

ชูวิทย์ มองส้มจับมือน้ำเงิน การหลอกลวงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการเมืองไทย ลั่น พรรคประชาชน ปฏิเสธไม่ได้ ต้องรับผิดชอบต่อนายกฯ และ ครม.ที่โหวตมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 68 ที่ พรรคประชาชน ประกาศสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อดำเนินการยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อตกลง ทำให้หลายฝ่ายต่างออกมาวิเคราะห์และตั้งคำถามถึงการตัดสินใจครั้งนี้

หนึ่งในนั้นคือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่ออกมาโพสต์วิเคราะห์ เมื่อช่วงเวลาประมาณเกือบ 01.00 น. ของวันที่ 4 ก.ย. 68 ระบุข้อความว่า การหลอกลวงที่สมบูรณ์แบบ พรรคประชาชนประกาศสนับสนุน นายอนุทิน เป็นนายกฯ พรรคเพื่อไทยยื่นยุบสภา แต่ไม่ผ่าน ประกาศยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน ประธานสภานัดประชุมสภาโหวตนายกฯ วันศุกร์นี้

เมื่อนายอนุทินขึ้นเป็นนายกฯ การจัดตั้ง ครม. หนีไม่พ้นการตอบแทนบุญคุณทางการเมืองตามระบบโควต้า นักการเมืองขาประจำก็กลับมาเป็นรัฐมนตรี เพื่อให้พรรคประชาชนอภิปรายตรวจสอบ เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้น และ 2 กระทรวง ขาประจำที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องยึดไว้ คือ กระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงคมนาคม สัดส่วน ครม. ที่ พรรคภูมิใจไทยจะจัด จึงเหลือๆ เมื่อไม่มีพรรคประชาชนมาหารส่วนแบ่งให้เสียของไปถึง 140 กว่าเสียง

ด้วยมุมมองการเมืองแบบบริสุทธิ์อินโนเซ้นท์ พรรคประชาชนยังประกาศจะเป็นฝ่ายค้าน เพื่อจะตรวจสอบรัฐบาลเสียอีก โหวตเลือกนายกฯ เพื่อตั้งรัฐบาล ส่วนคนโหวตยอมเป็นฝ่ายค้าน เพื่อมาตรวจสอบรัฐบาลที่ตั้งมา เป็นเรื่องแปลกแต่จริง มีประเทศไทยที่เดียว ต้องถามว่า ทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร? เพราะการเป็นฝ่ายค้านไม่มีใครล้มรัฐบาลได้เลยสักครั้ง

เครื่องจักรดูด ส.ส. กำลังทำงาน สักพักเสียงอาจจะล้นเกินครึ่ง อ้างว่า หนูเปล่าน้า เค้ามาเอง หากจะคุมพรรคภูมิใจไทยให้ทำตามเงื่อนไขที่พรรคประชาชนยื่นเป็นสัญญาประชาคม พรรคประชาชนกลับต้องเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลต่างหาก เพื่อให้นายกฯ ยุบสภาตามกำหนด การควบคุมที่ดี คือ เป็นส่วนหนึ่งใน ครม. เพื่อจะได้เห็นทุกความเคลื่อนไหว

กระทรวงที่พรรคประชาชนต้องคุม คือ กระทรวงยุติธรรม เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนที่ DSI แจ้งข้อกล่าวหานายอนุทิน เรื่องฮั้ว ส.ว. และแม้แต่เขากระโดงอันลือลั่น รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ที่คุมบรรดาข้าราชการที่มีผลต่อการเลือกตั้ง แล้วยังมีกรมที่ดินที่ไม่รู้จะถอนโฉนดเขากระโดงได้หรือไม่? นับเป็นข้อถกเถียงที่ล้วนแต่มีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยทั้งสิ้น แต่นี่กลับปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยจัดสรรแบ่งปันกันเสร็จสรรพสบายใจเฉิบ ด้วยเงื่อนไขที่อ้าแขนรับได้หมด ชิลเหลือเกิน มันผิดธรรมชาติการเมืองเป็นอย่างยิ่ง แล้วคอยดูหน้าตา ครม.หนู เถิด

พรรคประชาชนจะปฏิเสธไม่ได้ ที่ต้องรับผิดชอบต่อนายกฯ และ ครม. ชุดที่นายกฯ เลือกมา ล้วนเป็นผลมาจากการโหวตสนับสนุนจากพรรคประชาชนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะอ้างว่าเป็นฝ่ายค้านไม่เกี่ยวไม่ได้ เพราะพรรคประชาชนไปปลุกพรรคภูมิใจไทยให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเอง ด้วยการโหวตให้นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ หรือไม่อย่างนั้น แทนที่พรรคประชาชนจะอยู่เฉยๆ งดออกเสียง ไม่โหวตให้ใคร กลับทำตัวเป็นนั่งร้านให้พรรคภูมิใจไทยโดยไม่ได้อะไรแม้แต่น้อย ได้แค่ไปหางานทำ ตรวจสอบ อภิปราย ทำได้เท่านั้น

ในขณะที่อีกฝ่ายกุมอำนาจรัฐ และ ส.ว. ที่สามารถแต่งตั้งองค์กรกลาง เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่นายอนุทิน เคยย้ำนักย้ำหนาว่า ใครจะเป็น? แค่นี้ก็รู้แล้วว่า นักการเมืองลิ้นมันดิ้นได้ ให้ตายเถอะ ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบใสซื่อ ไม่เข้ากับบริบทการเมืองไทย และโดยเฉพาะกับพรรค ภูมิใจไทยเลย การจะเปลี่ยนการเมืองไทยไม่สามารถกระทำได้ในระยะเวลาเพียง 4 เดือนนี้หรอกครับน้องเอ๋ย เอาแค่สิ่งที่พรรคประชาชนบอกไว้ว่า จะไม่ให้ใครเอา ม.112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการเล่นงานใคร แค่วันนี้ก็มีการแจ้ง ม.112 กับนายภูมิธรรมที่ไปยื่นยุบสภาเสียแล้ว

ทุกสิ่งทุกอย่างจะย้อนกลับมาที่พรรคประชาชนที่ไปเลือกข้างพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้ ทั้งการทำงานของนายกฯ และ ครม. เขี้ยวลากดิน การจัดสรรผลประโยชน์ การควบคุม ส.ว. ไปในทุกเรื่อง ทุกอย่างล้วนมีต้นเหตุเพราะพรรคประชาชนเลือกนายอนุทินเอง โดยทำหล่อว่าตัวเองขอเป็นฝ่ายค้าน พรรคประชาชนจะต้องร่วมรับผิดชอบกับการตัดสินใจครั้งนี้อย่างเจ็บช้ำเป็นคำรบสอง ต่อเนื่องมาจากการที่พรรคภูมิใจไทยไม่โหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ อย่างอ้างประชาชน เพราะสิ่งที่ทำไปประชาชนไม่ได้อะไร ล้วนมีแต่เสียกับการตัดสินใจแบบนี้ ที่ปล่อยเสือออกจากกรง แล้วคนเลี้ยงที่ว่าจะคุมเสือ กลับถูกเสือคาบไปกิน รอดูได้เลย

ภาระที่พรรคประชาชนต้องแบกใส่บ่าหามไว้ จะส่งผลให้พรรคประชาชนเสียคะแนนมหาศาล ที่กล้าเอาเนื้อสดไปฝากไว้กับเสือหิว หรือจะว่าไป นี่เป็นการหลอกลวงที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เคยเห็นมาในการเมืองไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง