นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่สั่งปิดการประชุมสภาฯ อย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ก่อนที่จะมีการพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 และ 44 ที่เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย

นายไชยาเปิดเผยว่า การปิดประชุมครั้งนั้นเป็นไปตามสัญญาณที่ได้รับจากวิปรัฐบาล โดยแจ้งว่าหลังการตอบกระทู้แล้วจะมีเพียงการรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแค่แห่งเดียวคือ กองทุนสื่อสร้างสรรค์ และเมื่อไม่มีวาระอื่นเพิ่มเติม จึงถือว่าการประชุมสิ้นสุดลง ทำให้ตนตัดสินใจปิดประชุม ยืนยันว่าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเจตนาทางการเมืองแอบแฝง

ในประเด็นที่ฝ่ายค้านจะเสนอญัตติด้วยวาจา นายไชยากล่าวว่าตนไม่ได้รับทราบมาก่อน และเพิ่งรู้เรื่องหลังการปิดประชุมแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในการสื่อสารกันระหว่างวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม หากการกระทำดังกล่าวทำให้สังคมไม่สบายใจ ตนก็ต้องขอโทษ

นายไชยายังเรียกร้องให้ สส.ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นย้ำว่าสภาฯ ควรเป็นเวทีเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนมากกว่าเป็นพื้นที่สำหรับเกมการเมือง โดยเฉพาะในประเด็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขอให้ถอยกันคนละก้าวเพื่อให้การทำงานราบรื่น

ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าการปิดประชุมเป็นเพราะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ นายไชยาระบุว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลองค์ประชุมให้เรียบร้อย และย้ำว่าในฐานะประธานในที่ประชุม ตนทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร โดยมีประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบการทำงาน