เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุม 109 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2/2568 เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ภายหลังการประชุม นายพีระพันธุ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติอนุมัติในหลักการ ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และทหารพราน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยกำหนดวงเงินเยียวยาในแต่ละกรณี ดังนี้

1. กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท

2. กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท

3. กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท

4. กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท

5. กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท

นายพีระพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลขอแสดงความห่วงใยและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านความเป็นอยู่และสภาพจิตใจ

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ชายแดน สามารถโอนเงินเข้าบัญชี กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยสามารถนำยอดเงินบริจาคไปลดหย่อนภาษีได้

ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยและเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างสุดซึ้ง และได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

ในส่วนของการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละท่านลงพื้นที่ ดังนี้

1. น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์

2. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์

3. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

4. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

ทั้งนี้ เพื่อดูแล เยี่ยมเยียน และให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างทั่วถึง