วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่า เว็บไซต์ huasengheng ฮั่วเซ่งเฮง ได้เผยบทความ แนวโน้มตลาดและการลงทุน ไว้ดังนี้

ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ทองโลกมีการปรับตัวขึ้นในกรอบแนวรับ / ต้าน จากการที่ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ฟื้นตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 สู่ระดับ 100.19 หน่วย จาก 98.73 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 4.07% ในขณะที่ตลาดได้จับตาศาลฎีกาสหรัฐฯ ที่มีกำหนดนัดใต่สวนประเด็นด้านกฎหมายภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ ในวันนี้ โดยนายสก๊อต เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ จะเป็นผู้เข้าร่วมแทนปธน.ทรัมป์ นอกจากนี้ นายไบรอัน การ์ดเนอร์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์นโยบายวอชิงตันของ Stifel ได้คาดการณ์ว่า ตลาดกำลังประเมินว่า ฝ่ายทรัมป์มีแนวโน้มที่จะชนะ แต่การโต้แย้งกันภายในศาลอาจทำให้รูปคดีมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ได้เข้าสู่วันที่ 35 โดยปธน.ทรัมป์ยังคงไม่แสดงท่าทีอ่อนข้อต่อพรรคเดโมแครต ซึ่งส่งผลกระทบให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศกว่า 13,000 คน และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยด้านการขนส่งกว่า 50,000 คนต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ในขณะที่สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ระบุว่า ภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อในครั้งนี้อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 0.7 – 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 3.15 ตัน

รวมสุทธิ 1,035.63 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

วันนี้เวลา 20.15 น. สหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรจาก ADP เดือนต.ค. และ 22.00 น. เผยดัชนี PMI ภาคการบริการ ISM เดือนต.ค.

วิเคราะห์ราคาทอง

เมื่อคืน ราคาทองโลกได้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,980- 4,000 ดอลลาร์ และมีการย่อตัวลง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 3,915 ดอลลาร์ และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในภายหลัง แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,900 ดอลลาร์ ทองโลกอาจปรับฐานลงต่อเนื่อง

ราคาทองคำโลก

แนวรับ : 3,915 และ 3,900 ดอลลาร์

แนวต้าน : 3,980 และ 4,000 ดอลลาร์

ทองโลกยังคงอยู่ในระยะทยอยปรับตัวขึ้น จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,915 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,980 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,900 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

แนวรับ : 60,550 และ 60,400 บาท

แนวต้าน : 61,300 และ 61,500 บาท

ราคาทองในประเทศมีการปรับฐานลงตามทองโลก ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า จึงแนะนำทยอยซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 60,550 และขายทำกำไรตามแนวต้านที่ 61,300 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 60,400 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน

ขอบคุณข้อมูลจาก huasengheng