กรมที่ดิน เผยข้อมูลเกี่ยวกับการรับมรดกที่ดิน สำหรับทายาทผู้ใดจะได้สิทธิอันดับแรก กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมนั้น การรับมรดกจะเป็นไปตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยกำหนดให้ ทายาทโดยธรรม เป็นผู้มีสิทธิรับมรดก
ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ลำดับ ทายาทลำดับก่อนหน้าจะมีสิทธิตัดทายาทในลำดับถัดไป เว้นแต่ผู้สืบสันดานและบิดามารดาที่ยังคงมีสิทธิรับมรดกร่วมกันได้ ได้แก่
ลำดับที่ 1 : ผู้สืบทอดสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
ลำดับที่ 2 : บิดาและมารดา
ลำดับที่ 3 : พี่น้องร่วมสายเลือด ทั้งบิดาและมารดาเดียวกัน
ลำดับที่ 4 : พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
ลำดับที่ 5 : ปู่, ย่า, ตา, ยาย
ลำดับที่ 6 : ลุง, ป้า, น้า, อา
กรณีคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมเหล่านี้ด้วย
โดยผู้มีสิทธิได้รับมรดกที่ดินจะต้องไปขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินนั้นที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ในกรณีมีเอกสารเป็นโฉนดที่ดิน น.ส. 3 ข. และสำนักงานที่ดินอำเภอ ในกรณีมีเอกสารเป็น น.ส.3, น.ส.3 ก. ถ้าท้องที่ใดที่ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเลิกอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามกฎหมายที่ดินแล้ว ไม่ว่าที่ดินจะเป็นโฉนดที่ดิน น.ส.3 หรือ น.ส. 3 ก.,น.ส.3 ข. จะต้องไปขอจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ที่ดินตั้งอยู่
หลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก คือ
โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
บัตรประจำตัว
ทะเบียนบ้าน
หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น มรณบัตร
พินัยกรรม (ถ้ามี)
ถ้าผู้ขอ ขอรับมรดกในฐานะเป็นคู่สมรส ต้องมีหลักฐานการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้ขอรับมรดก ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ
ในกรณีที่มีผู้จัดการมรดก หลักฐานที่ต้องนำไป คือ
คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมที่ดิน