ค่าเงินแข็งเกินเหตุ! กกร.สงสัยโยงสแกมเมอร์กัมพูชา เร่งรัฐสอบด่วน
ข่าวเศรษฐกิจ

ค่าเงินแข็งเกินเหตุ! กกร.สงสัยโยงสแกมเมอร์กัมพูชา เร่งรัฐสอบด่วน

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ณ ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทยและสมาคมธนาคารไทย ได้หารือประเด็นเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า ค่าเงินบาทแข็งตัวเร็วและรุนแรงเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพิ่งมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%

กกร. ตั้งข้อสังเกตว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญอาจมาจากการส่งออกทองคำ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังกัมพูชา ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2568 ประเทศไทยส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาในมูลค่ากว่า 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็นสัดส่วน 28.2% ของการส่งออกทองคำทั้งหมดของประเทศ โดยถือเป็นประเทศคู่ค้าทองคำอันดับ 2 รองจากสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศขนาดเล็ก

คณะกรรมการฯ ชี้ว่า การส่งออกทองคำในปริมาณสูงไปยังกัมพูชาอาจมีผลทำให้เกิดการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยมากกว่าปกติ ส่งผลให้ต้องมีการแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ทำให้ความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างผิดปกติ

นอกจากนี้ กกร. แสดงความกังวลว่า การส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาอาจมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจใต้ดินหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากกัมพูชาเคยมีประเด็นปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และธุรกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ คณะกรรมการฯ จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เพื่อแยกแยะว่าการส่งออกทองคำดังกล่าวอยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่ และมีความผิดปกติอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายหรือธุรกิจใต้ดิน แต่ถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจนอกระบบและอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพค่าเงินบาทโดยรวม

กกร. เสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งแยกข้อมูลมูลค่าการค้าทองคำออกจากภาพรวมการค้า เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และควรติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศอื่นค่าเงินแข็งค่าระดับหนึ่ง แต่ค่าเงินบาทกลับแข็งในอัตราที่รุนแรงกว่ามาก ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ค่าเงินอ่อน บาทไทยก็มักอ่อนตัวแรงกว่าประเทศอื่นเช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคการส่งออก ภาคเกษตรและภาคการท่องเที่ยว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง