เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะส่งน้ำดื่มขับมาด้วยความเร็วสูงก่อนเสียหลักแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณถนนหนองฮ่อ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น และแรงกระชากของสายไฟทำให้มีเสาไฟฟ้าทั้งแรงสูงและแรงต่ำล้มตามมาอีก รวมทั้งสิ้น 52 ต้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้บ้านเรือนและร้านค้าถูกเสาไฟฟ้าล้มทับกว่า 24 หลัง ร้านอาหารถูกไฟไหม้บางส่วน 1 แห่ง รถยนต์เสียหาย 9 คันและรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม และอำเภอสันทราย มีผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบจำนวน 217,323 ราย
ด้าน ดร.ทองศุกร์ วงศ์โสภา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประเมินเบื้องต้น มูลค่าความเสียหายน่าจะเกิน 10 ล้านบาท แต่ยังต้องรอผลสรุปอย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้ทีมงานประเมินค่าเสียหายได้ลงพื้นที่สำรวจแล้ว คาดว่าจะทราบผลที่แน่ชัดในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่ พ.ต.อ.เสวก ชูศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ระบุว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น พบว่าผู้ขับขี่รถกระบะขับมาด้วยความเร็ว จนเป็นเหตุให้เสียหลักแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวนมาก รวมถึงมีผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เบื้องต้นพบว่ารถกระบะคันที่เกิดเหตุ มีประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งอาจมีวงเงินคุ้มครองไม่ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด หากเป็นเช่นนั้น ผู้เสียหายสามารถดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเพิ่มเติมได้ โดยพนักงานสอบสวนจะเข้ามาช่วยดูแลในขั้นตอนการเจรจาระหว่างคู่กรณี
ตามกฎหมาย กรณีลูกจ้างก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอกในระหว่างการทำงาน นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดด้วย หากผลสอบสวนพบว่าขณะเกิดเหตุ ผู้ขับขี่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำคนขับเพิ่มเติมหลังได้รับอนุญาตจากแพทย์ ก่อนสรุปสำนวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป