สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สืบสวนพบขบวนการลักลอบซื้อขายบัญชีม้าในกลุ่มเฟซบุ๊กสาธารณะกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มกว่า 4,000 คน โดยคนในกลุ่มจะมีการติดต่อซื้อขายบัญชีธนาคารต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นบัญชีม้าในการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ หรือความผิดทางอาญาอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มดังกล่าว กระทั่งมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กไม่ระบุตัวตนได้โพสต์หาซื้อบัญชีธนาคาร โดยส่ง QR Code ให้ผู้สนใจติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้ให้สายลับติดต่อไปยังบัญชีไลน์ดังกล่าว ปรากฏรูปโปรไฟล์เป็นผู้หญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้สายลับทำทีติดต่อเพื่อขอขายบัญชีธนาคาร โดยบัญชีไลน์ดังกล่าวได้เสนอค่าเปิดบัญชีธนาคารเป็นรายวัน วันละ 300 บาท แล้วจะพาไปเปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง จ.ระยอง สายลับจึงได้ตกลงขายบัญชีให้

ต่อมา พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 นำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมกรณีดังกล่าว จากนั้นชุดจับกุมได้วางกำลังแฝงตัวตามจุดต่างๆ ภายในห้างสรรพสินค้าตามที่นัดไว้ กระทั่งถึงเวลานัดหมาย ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวได้โทรหาสายลับ และแจ้งให้ไปรอที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งภายในตัวห้าง จากนั้นได้มีหญิงรายหนึ่งได้เดินเข้ามาหาสายลับที่หน้าธนาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แฝงตัวอยู่บริเวณดังกล่าวจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจค้น

ผลการตรวจค้น ทราบชื่อ น.ส.ณัฐริดา หรือ พลอย อายุ 27 ปี พบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ iPhone รุ่น 16 Pro Max อยู่ในมือ จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ดังกล่าว พบว่าเป็นเจ้าของผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวจริง และยังพบข้อมูลการติดต่อซื้อขายบัญชีธนาคารระหว่าง น.ส.ณัฐริดาฯ กับสายลับ

จากการซักถาม น.ส.ณัฐริดาฯ ยอมรับว่าตนเองได้ติดต่อกับสายลับเพื่อขอซื้อบัญชีธนาคารจริง โดยอ้างว่าตนเองทำงานอยู่ที่ฝ่ายสินเชื่อทำบัตรเครดิต ที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่ง ใน กทม. แต่จากการตรวจสอบแล้วกลับไม่พบบัตรประจำตัวพนักงานแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ยังพบว่า น.ส.ณัฐริดาฯ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาบัญชีม้าในหลายท้องที่ ชุดจับกุมจึงเชื่อว่า การที่ น.ส.ณัฐริดาฯ ได้ซื้อบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นไปอาจเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้กระทำผิดรายอื่นๆ เพิ่มเติมจากที่ตรวจพบข้อมูล เพื่อนำตัวผู้กระความทำผิดและยึดของกลางที่อาจใช้ในการกระทำผิด มาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล รายงาน