เมื่อเวลา 08.07 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2568 ร.ต.อ.ประสิทธอ์ สุดาสุด ร้อยเวร สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จึงรายงาน พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล, พล.ต.ต.สุเทพ ประภากรณ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบประชาชนจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์และทราบเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยจึงประสานขอกำลัง จนท.ตำรวจพร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จาก ตร.ภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าควบคุมที่เกิดเหตุ กันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน พบหญิงได้รับบาดเจ็บนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บริเวณลานหน้าบ้าน พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล พยามพูดเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในบ้าน เพื่อขอเร่งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ลับแล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของที่เกิดเหตุ จนท.ตร.ได้ตรึงกำลังปิดล้อม เกลี้ยงกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว พร้อมให้พ่อของผู้ก่อเหตุมาพูดเกลี้ยงกล่อมผ่านโทรโข่ง ก็ไม่เป็นผล ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากภายในบ้าน เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวน นางลำแพน (สงวนนามสกลุ) ภรรยาผู้ก่อเหตุ ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน อยู่ 5 คน คือ ผู้ก่อเหตุ คือ นายวิรุ่ง  อายุ 42 ปี (ลูกเขย) ลูกชายของตนกับนายวิรุ่ง 2 คน และนางอรุณ บุตรดา อายุ 68 ปี (แม่ยายของผู้ก่อเหตุ) ช่วงเกิดเหตุ ตนเองออกไปขายของที่ตลาดสดฝายหลวง ลูก 2 คนไปโรงเรียน ไม่คิดว่าสามีจะใช้อาวุธปืนยิงแม่ของตัวเอง ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากลูกเขยแค้นแม่ยายเคยไปแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย

นางลำแพน กล่าวต่อว่า สามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มักเสพยาบ้าและดื่มสุราเป็นประจำ เวลาเสพยาบ้าหรือดื่มสุราชอบหาเรื่องทะเลาะตบตีตนเอง และก็จะมีแม่ คือ ผู้เสียชีวิต คอยห้ามปกป้องตลอดเวลา บางครั้งแม่เข้าห้ามก็มีตบตีไปด้วย จึงได้ไปแจ้งความทำร้ายร่างกาย เช้าวันเกิดเหตุ ทั้ง 2 คนอยู่บ้านเชื่อว่า น่าจะมีปากเสียงกัน ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะเดินออกจากบ้าน ลูกเขยจึงใช้อาวุธปืนยิงจากด้านหลังเสียชีวิต จากนั้นคงเครียดและกลัวผิด จึงยิงตัวเองตาม

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุตรดิตถ์ รายงาน