ตำรวจปคบ. ตัดวงจรแก๊งเอเยนต์คอกม้าสร้างตัว จากคนขาย มาเป็นผู้จัดหาบัญชี
ข่าวอาชญากรรม

ตำรวจปคบ. ตัดวงจรแก๊งเอเยนต์คอกม้าสร้างตัว จากคนขาย มาเป็นผู้จัดหาบัญชี

วันที่ 28 พ.ย. 2568 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 6 กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกันจับกุม

1) น.ส.รติพร อายุ 36 ปี

2) นายสิทธิพร อายุ 22 ปี

3) นายวิชัย อายุ 40 ปี

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดข้อกล่าวหา ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 10 และเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต

ของกลางสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย จำนวน 2 เล่ม พร้อมบัตรกดเงินสด จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสดค่าซื้อบัญชี 2,000 บาท ยาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) จำนวน 6 เม็ด อุปกรณ์การเสพ 1 ชุด

สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถชั้น 5 ห้างดังย่านงามวงศ์วาน ถ.งามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และคอนโดย่านงามวงศ์วาน ซ.งามวงศ์วาน 22 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เกี่ยวเนื่องกัน

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหา มีพฤติการณ์จัดหา หรือโฆษณารับซื้อบัญชีเงินฝาก ในราคา 1,000 - 2,500 บาท ตามวงเงินธนาคารที่สามารถทำธุรกรรมได้ต่อวัน และมักจะเช่าห้องพักใกล้ห้างสรรพสินค้า ที่รวมธนาคารหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อความสะดวกแก่การพาคนมาเปิดบัญชี โดยว่าจ้างเปิดบัญชีผ่านทาง Facebook หรือกลุ่มไลน์ จึงได้ให้สายลับเข้าไปติดต่อล่อขายบัญชีเงินฝาก โดยนัดส่งมอบกันที่ห้างดัง ย่านงามวงศ์วาน

ต่อมา ตามวันเวลาเกิดเหตุ สายลับได้นำบัญชีมามอบให้ น.ส.รติพร ชัยชุมขุน และนายสิทธิพร โพธิ์สาร และได้ทำการลงทะเบียน แสกนใบหน้าผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคาร เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้จ่ายเงินค่าจ้างเปิดบัญชี ให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึดบัญชีเงินฝาก, โทรศัพท์, เงินสดค่าจ้างเปิดบัญชี, และพบยาบ้าในตัวของ นายสิทธิพร ฯ ตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งสอง สอบถามแล้วรับว่าติดต่อซื้อบัญชีเงินฝากจากสายลับจริง ในราคา 2,000 บาท ขณะจับกุม น.ส.รติพร ฯ แจ้งว่ามี นายวิชัย มืดพา เพื่อนของตน ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ เดอะเพ้นคอนโด ซ.งามวงศ์วาน 22 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นห้องพักที่ น.ส.รติพร ฯ เช่าอยู่ ก็มีพฤติกรรมกระทำผิดเช่นเดียวกับตน

จึงได้สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นห้องพักที่คอนโดดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายวิชัย ฯ อยู่ในห้อง พบสารเสพติดในร่างกาย จึงได้ตรวจยึดอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้โพสต์โฆษณารับซื้อบัญชีเงินฝาก ผ่านทาง Facebook ส่วนตัวของ นายวิชัย ฯ สอบถามแล้ว นายวิชัย ฯ รับว่าได้เสพยาไอซ์ และจัดหา หรือรับซื้อบัญชีเงินฝาก ไปขายให้กับ นายทุนทางภาคเหนือ และนายทุนติดกับประเทศเพื่อนบ้านจริง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหาได้ทราบข้อกล่าวหาแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้งสาม รับว่าก่อนจะเป็นผู้จัดหา หรือรับซื้อบัญชีเงินฝาก ไปขายให้กับ นายทุนทางภาคเหนือ และนายทุนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน นั้น ผู้ต้องหา บางคนเคยขายบัญชีมาก่อน และถูกจับกุมดำเนินคดี เลยเห็นช่องทางหารายได้ โดยผู้ต้องหา จะสำรวจราคาบัญชีที่มีคนโพสต์รับซื้อ หรือราคาที่นายทุนเสนอมา จากนั้นจะไปหาคนมาเปิดบัญชี และได้กำไรจากราคาส่วนต่างจากการขายบัญชีนั้น เช่น นายทุน รับซื้อบัญชีราคา 2,000 บาท ผู้ต้องหา ก็จะไปว่าจ้างให้ผู้อื่นเปิดบัญชีในราคา 1,500 บาท ได้กำไร 500 บาท

โดยนายทุน จะส่งโทรศัพท์เครื่องเปล่า มาทางไปรษณีย์ ใช้ชื่อผู้ส่งและเบอร์โทรปลอม ส่งมาที่พักของผู้ต้องหา เพื่อเอาไว้่ไปลงทะเบียนใช้แอพพลิเคชั่นธนาคารก่อนล่วงหน้าที่จะมีคนมาขายบัญชีให้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการลงแอพพลิเคชั่นธนาคารกับโทรศัพท์ และใช้บัญชีวอลเลตของบุคคลอื่น โอนค่าเปิดบัญชีมาให้ผู้ต้องหา เมื่อบัญชีส่งถึงนายทุน และใช้งานได้ ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปใช้จ่ายทั่วไป และซื้อยาเสพติดมาเสพ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน