ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ,ให้ดำเนินการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุหลอกลวงในรูปแบบแก๊งค์คอลเซนเตอร์ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมา ลงโทษให้ได้โดยเร็วภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณ คีรีโรจน์ผบก.น.4 , พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6. ,พ.ต.อ.ณัฏฐ์ภาณพ วัชรเสวีรอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4 , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 สืบเนื่องคดีอาชญากรรมออนไลน์ ที่มีชายสัญชาติฮ่องกงหลอกลวงเงินสดและทรัพย์สิน จากหญิงไทย อายุ 80 ปี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท ของสน.วังทองหลาง มีนางสาวลักขณาฯ เป็นผู้เสียหายเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ร่วมกับ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.วังทองหลาง ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก. ตม.1 และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.น.4

ได้ทำการสืบสวนขยายผล พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินในลักษณะฟอกเงิน และต่อมาสามารถ ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ มีรายละเอียดคือ วันที่ 18 พ.ย.68 เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สส.บก.น.6 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.วัง ทองหลาง ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก. ตม.1 พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.น.4 ได้นำหมายค้นของ ศาลอาญา ลงวันที่ 17 พ.ย. 2568 เพื่อค้นบ้านพักภายใน ซอยลาดกระบัง 1ก/7 แขวงลาดกระบัง
เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้นปรากฎว่าพบ MR.T (นามสมมติ) แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งเป็นผู้มีรูปพรรณสัณฐานตรงกันกับบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 6615/2568 ลงวันที่ 12 พ.ย.68 สน.วังทองหลาง ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดแต่บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและสมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” จึงได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้ตรวจดูปรากฏว่า MR.T (นามสมมติ) รับว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายค้นให้นาย MR.T (นามสมมติ) ดูและอ่านหมายค้นให้จน MR.T (นามสมมติ) ทราบและเข้าใจดีแล้ว และยินยอมให้ตรวจ ค้นโดยยินดีเป็นผู้นำตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวด้วยตนเอง ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบ ของกลางที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ทั้งหมด 10 รายการ

1.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุถุงพลาสติกใสรัดด้วยยางหนังสีแดง จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 914.4 กรัม
2.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 20.0 กรัม
3.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 19.1 กรัม
4.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 35.3 กรัม
5.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 50.5 กรัม
6.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 50.5 กรัม
7.คีตามีนชนิดเกล็ดใสสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 50.5 กรัม

8.เครื่องชั่งดิจิตอลจำนวน 2 เครื่อง
9.ถุงแบ่งพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 2 แพ็ค
10.เครื่องซีลพลาสติก จำนวน 1 เครื่อง
จากการสอบถาม MR.T (นามสมมติ) ให้การรับสารภาพว่า ของกลางตามรายการดังกล่าวข้างต้นเป็นของ ตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิตามกฎหมายให้ MR.T (นามสมมติ) ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นจึงได้ดำเนินการจัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ส่วนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและสมคบฟอกเงินฯ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้แยกดำเนินการ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งสิทธิดำเนินการตามฏหมายต่อไปและได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกหลายรายการ มูลค่าประมาณ5ล้านบาทเศษ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อ ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป อันมีรายการดังต่อไปนี้

1. กระเป๋าเงินดิจิทัล (hardware wallet) จำนวน 2 เครื่อง
2. หนังสือเดินทาง จำนวน 2 เล่ม
3. สมุดบัญชี ธนาคารต่างๆ 16 เล่ม 4. คอมพิวเตอร์พกพายี่ห้อ APPLE จำนวน 1 เครื่อง
5. กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 6 ใบ
6. แหวนเพชร 7วง , จี้สร้อยจำนวน 1 เส้น และตุ้มหู 1 คู
7. ซิมการ์ด จำนวน 2 อัน
8. โทรศัพท์ จำนวน 9 เครื่อง
9. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 1 เครื่อง
10. รถยนต์ จำนวน 3 คัน
11. รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
12. กระเป๋าเดินทาง จำนวน 1 ใบ
ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน