รวบหนุ่มวัย 33 ละเมิดหลานสาวเพื่อนวัยเพียง 7 ขวบ หลังร้านซ่อมมือถือ พบคลิปไม่เหมาะสม ขณะลูกค้านำมาฝากซ่อม จึงแจ้งพจ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าช่วยเหลือ
ข่าวอาชญากรรม

รวบหนุ่มวัย 33 ละเมิดหลานสาวเพื่อนวัยเพียง 7 ขวบ หลังร้านซ่อมมือถือ พบคลิปไม่เหมาะสม ขณะลูกค้านำมาฝากซ่อม จึงแจ้งพจ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าช่วยเหลือ

วันนี้ (18 พ.ย. 2568) ร.ต.อ.สุพจน์ นุกาศ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้นำตัวนายปกรณ์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุล่วงละเมิดเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นหลานของเพื่อน นำตัวมาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ได้แก่ ครอบครองสื่อลามกอนาจาร และกระทำชำเราและอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี

คดีนี้สืบเนื่องจากนายปกรณ์ผู้ต้องหาได้นำโทรศัพท์ไปซ่อมที่ร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่ช่างซ่อมมือถือกำลังทำการกู้ข้อมูลนั้นบังเอิญพบเห็นคลิปวีดีโอลามกอนาจาร ความยาวประมาณ 13 นาที ที่เป็นหลักฐานสำคัญของคดีนี้ เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงไม่ปล่อยผ่าน และได้ทำการส่งคลิปดังกล่าวไปให้ทางเพจของมูลนิธิเป็นหนึ่ง เพื่อปรึกษาหาทางออก

ต่อมา ทาง ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ได้ลงพื้นที่หาข้อมูล พบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง อยู่ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จึงประสานเจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน บ้านพักเด็กจังหวัดลำพูน เดินทางไปพูดคุยกับเด็กหญิงคนดังกล่าวที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง โดยยังไม่ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพราะข้อมูลเบื้องต้นพบว่าชายคนก่อเหตุเป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัว เกรงจะไหวตัวทัน

หลังจากนั้นทางคณะมูลนิธิเป็นหนึ่งและเจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน บ้านพักเด็กจังหวัดลำพูน จึงได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองลำพูน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี และทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุเดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อ 2 เดือนก่อนได้มาพักอาศัยอยู่กับเพื่อนและผู้ปกครองในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จนญาติไว้วางใจปล่อยให้นายปกรณ์อยู่กับลูกสาวเพียงลำพัง จนกระทั่งก่อเหตุขึ้น

จากการสืบสวน พบว่า นายปกรณ์ได้เดินทางไปทำงานที่เขตอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน จึงนำกำลังพร้อมกับเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องประสานงานกับ สภ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปจับกุมตัวได้

ในตอนแรกผู้ต้องหาให้การภาคเสธ หลังถูกสอบสวนอย่างหนัก จึงได้ยอมรับสารภาพในเวลาต่อมา และยังยอมรับว่า ได้ถ่ายคลิปเก็บไว้ในโทรศัพท์ของตนเองยังไม่ได้ลบออก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป