กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.
สถานที่ตรวจค้น
1. บริษัท เพชร ทเว็นตี้ไนน์ จำกัด พื้นที่ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
2. อาคารสำนักงาน พื้นที่ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ร่วมกันกล่าวโทษ ได้แก่
1. บริษัท เพชร ทเว็นตี้ไนน์ จำกัด
2. นายเอ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี

พร้อมตรวจยึด ดังนี้
1.เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง
ในความผิดฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เกี่ยวกับบริษัท เพชร ทเว็นตี้ไนน์ จำกัด มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้และเรียกดอกเบี้ย เกินกฎหมายกำหนดให้กับบุคคลทั่วไป ด้วยวิธีการรับจำนำไอคลาวด์ โดยการใช้บัญชี iCloud เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน โดยมีการทำสัญญาผ่านระบบออนไลน์
ซึ่งบริษัทฯ ส่งลิงค์ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่ทำงาน หมายเลขบัญชีธนาคารและถ่ายรูปใบหน้าถือบัตรประชาชนเพื่อทำสัญญาและส่งลิงค์เพื่อให้กรอกบัญชีไอคราวด์ของบริษัทฯ ใส่ไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของผู้กู้ เพื่อใช้ติดตามทวงหนี้และแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ โดยมีการควบคุมระยะไกลผ่านบัญชีไอคราวด์ หรือ ระบบ MDM (Mobile Device Management) โดยสามารถค้นหาพิกัดที่อยู่ปัจจุบันของผู้กู้ได้ทันที ซึ่งผู้กู้ยังสามารถใช้เครื่องได้ตามปกติและมีการชำระดอกเบี้ยเป็นงวดๆ โดยต้องชำระดอกเบี้ยคิดเป็นร้อยละ 486.6 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชำระคืน หากผู้กู้ชำระดอกเบี้ยล่าช้า ทางบริษัทจะปรับเงินค่าล่าช้าวันละ 100 บาท และหากชำระล่าช้าเกิน 5 วัน เครื่องจะถูกล็อกทันที ในกรณีเครื่องถูกล็อกบริษัทฯ จะคิดค่าปลดล็อกเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบแหล่งที่ตั้งบริษัทฯ ที่ถูกร้องเรียน จึงได้ยื่นขออนุมัติหมายค้นจากศาล ซึ่งต่อมาได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่ตั้งของบริษัทฯ ที่ถูกร้องเรียน ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ รวม 2 จุด จากการตรวจค้นพบพนักงานบริษัทฯ กำลังตรวจสอบข้อมูลผู้กู้ผ่านระบบออนไลน์ , กระดานซึ่งมีการเขียนขั้นตอนการทวงถามหนี้ จำนวนผู้กู้ ยอดเงินที่กู้ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งพบจำนวนผู้กู้กว่า 2,000 ราย
ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและนำพยานหลักฐานดังกล่าวประกอบการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในฐานความผิด “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.

สอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพว่าเปิดให้บริการรับจำนำไอคลาวด์จริง โดยเปิดให้บริการมาเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน