วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ. อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.อ.อติชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พ.ต.ท.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ รอง ผกก 3 บก.สอท.3 สนธิกำลังตร.บก.สอท.1,2,3 และสำนักงานปปง.

ปิดล้อมตรวจค้น 36 จุด ในพื้นที่กทม. และ จ.ตราด เพื่อตรวจค้นอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายนายพัด สุภาภา หรือนายลี ยงพัด สมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนและไทยเกาะกงเขาเป็นเจ้าของบริษัทแอลวายพีกรุป (LYP Group)

ตรวจค้นอาคารห้องชุดจำนวน 2 ห้อง ย่านสุขุมวิท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้อาศัย มีเพียงนิติบุคคลดูแลอาคารห้องชุดดังกล่าว จึงตรวจยึดเอกสารทรัพย์สินภายในห้อง นอกจากนี้ได้ตรวจยึดที่ดิน ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด มูลค่า 5 ล้านบาท และเงินสดในบัญชีกว่า 88.2 ล้านบาท

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการที่ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบกระทั่งพบว่า นายลี ยงพัด หรือนายพัด สุภาภา และพวก มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ โดยแบ่งงานกันทำในลักษณะของการรับผลประโยชน์และการฟอกเงิน

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับผู้กระทำผิดในเครือข่ายรวม 5 ราย ประกอบด้วย นายพัด สุภาภา อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ 6503/2568 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นายโชคชัย สุภาภา อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับนายพัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ 6540/2568 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 และชาวจีนอีก 3 ราย ในความผิดฐาน “สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ให้มีการสมคบกัน และร่วมกันกันฟอกเงิน”

ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องของการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์ โดยยกเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมให้แนวทางให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกวาดล้างผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) นายอนุทิน จะเปิดแถลง เวลา 09.50 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ