เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงและใช้ไขควงไล่แทงญาติภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ก่อเหตุคือ นาย นพดล หรือ ช้าง อายุ 47 ปี มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและเสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอน หลังลงมือก่อเหตุ นายช้างได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย

ล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2568 พันตำรวจเอกสุวิชา ชั้นงาม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีเยาวชน 2 ราย ต้องสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการขอศาลออกหมายจับ ปัจจุบันชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนติดตัว ถือเป็นบุคคลอันตราย

จากการสอบสวนญาติให้ข้อมูลว่า นายช้างไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท คาดว่ายังหนีไปได้ไม่ไกล เพราะรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีมีน้ำมันเหลืออยู่เพียงประมาณ 1 ลิตร และไม่มีเงินติดตัว เจ้าหน้าที่จึงฝากประชาชนหากพบเห็นนายช้างให้รีบแจ้งตำรวจทันที

ด้านครอบครัวผู้เสียหายซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก เจ้าหน้าที่ได้พาไปพักอาศัยที่บ้านอีกหลังหนึ่งเพื่อความปลอดภัย และได้จัดกำลังตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุเคยถูกจับในคดีอาวุธปืนเมื่อหลายปีก่อน เป็นคนชอบเล่นปืนและมักได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ 2-3 นัด โดยเจ้าตัวอ้างว่ายิงไล่นกแสก หรือบางครั้งก็จุดประทัดไล่นกแทน เคยใช้อาวุธปืนจี้หัวคนในบ้าน แต่ไม่เคยก่อเหตุรุนแรงเท่าครั้งนี้ สาเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากอาการหลอนยาเสพติด ทำให้ครอบครัวต้องพาทุกคนออกจากบ้านเพราะกลัวอันตราย

ด้านหนุ่มวัย 15 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บและเป็นหลานของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการคล้ายคนหลอนยา ไม่พูดไม่จา ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่แม่ของตน แล้วบุกเข้ามาในบ้านใช้ไขควงแทงยายหลายครั้ง ตนจึงเข้าไปช่วยผลักจนผู้ก่อเหตุล้มลง แต่เจ้าตัวกลับคว้าอาวุธปืนขึ้นมาพยายามจ่อยิงตนจนบาดเจ็บ โชคดีที่กระสุนเฉี่ยวก่อนผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป

ขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ ติณชาติอารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บ พร้อมชี้แจงสิทธิและแนวทางการช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยผู้เสียหายมีสิทธิได้รับการเยียวยาหากเข้าเกณฑ์ตามกฎหมาย ดังนี้

- ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท

- ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ จ่ายตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท

- ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ในระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ให้จ่ายตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำในท้องที่ ไม่เกิน 1 ปี

- ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ๆ จ่ายตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 50,000 บาท

สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะเร่งรวบรวมหลักฐานและข้อมูลของผู้เสียหาย เพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างครบถ้วน