อดีตลูกค้าแค้นแพ้คดีซ่อมรถ บุกยิงเจ้าของอู่ เจอลั่นไกสวน ดวลกันสนั่นหลายนัด สิ้นเสียงเสียชีวิต 1 เจ็บอีก 2 ราย
ข่าวอาชญากรรม

อดีตลูกค้าแค้นแพ้คดีซ่อมรถ บุกยิงเจ้าของอู่ เจอลั่นไกสวน ดวลกันสนั่นหลายนัด สิ้นเสียงเสียชีวิต 1 เจ็บอีก 2 ราย

จากกรณีช่วงวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่มีทางด้านเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ภายในซอยศรีสมิธ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เคยออกมาร้องเรียนกับทางสื่อมวลชน พร้อมโชว์หลักฐานภาพจากกล้องวงจงปิดช่วงที่มี นายไตรรัตน์ ชั่งใจ ขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่หน้าอู่ ก่อนจะเดินถือปืนพกสั้นเข้ามาถามหาทางด้านเจ้าของอู่ดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นทางด้าน นายอเนก เจ้าของอู่ไม่อยู่ภายในอู่พอดีจึงไม่เจอกับ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเคยนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านั้น

กระทั่งล่าสุด มาช่วง 17.30 น. วันที่ 29 กันยายน 68  เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งเหตุว่า มีการยิงกันภายในอู่ดังกล่าวอีกครั้ง และที่เกิดเหตุมีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หลังรับแจ้ง จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยพร้อมสายตรวจฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บ สองราย คือ นายอเนก ยอดเพชร อายุ 37 ปี เจ้าของอู่ดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่สะโพกด้านหลัง รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ ส่วนอีกราย คือ นายกิตติ์ธเนศ อายุ 33 ปี เป็นน้องชายเจ้าของอู่ มีบาดแผลจากการถลอกตามร่างกายจากการล้มเพราะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ส่วนผู้เสียชีวิตภายในอู่คือ นายไพรัตน์ ชั่งใจ เป็นบุคคลเดียวกันที่เคยถือปืนบุกมาถามหาเจ้าของอู่ ซึ่งมาครั้งนี้จึงถูกเจ้าของอู่ชักปืนยิงสวนจนกระทั่งเสียชีวิตคาที่ ตำรวจจึงปิดกั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกเกลื่อนพื้น กว่า 20 ปลอก และยังพบปืนขนาด 9 มม กึ่งออโตเมติกของผู้เสียชีวิตตกอยู่ 1  กระบอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  

จากการสอบถาม นายกิตติ์ธเนศ อายุ 33 ปี บอกว่า เขาเข้ามาคนเดียว เขาเป็นเพื่อนกับพี่ที่อู่ เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่อยู่ในชั้นศาล วันนี้เขาเดินเข้ามายิง และเกิดการชุลมุน ตอนนั้นตนนั่งหันหน้าออกและเป็นคนเห็นคนแรก ตนตะโกนบอกพวกพี่ที่อู่แต่ไม่ทัน เขาก็ยิงเข้ามาเลย ในอู่อยู่กัน 5-6 คน เขาเล็งไปที่พี่คนเดียว เขาเสียชีวิต เพราะพี่ตนยิงสวน

ขณะที่ นาย มนตรี บอกว่า วันนี้พวกตนนั่งคุยกันอยู่ 6 คนตรงโต๊ะ เขาเข้ามาเขาก็ยิงรัว ตนได้ยินน่าจะสองเมกกะซีน โดนเจ้าของอู่กับรุ่นน้องอีกคน ผู้เสียชีวิตโดนยิงสวนแล้วเข้ามาแอบ ตอนนั้นตนกระโดดข้ามกำแพงหนี แล้วกระโดดกลับเข้ามา คนที่มายิงเป็นเพื่อนตน ซึ่งเคยมีคดีอยู่ในชั้นศาล เรื่องซ่อมรถ เขาวนเวียนมาหาเรื่องหลายครั้ง เขาเคยจะมาก่อเหตุ แต่ตอนนั้นตนกับเพื่อนไม่อยู่ ตนเคยไปแจ้งความเป็นข่าวอยู่ครั้งหนึ่ง วันนี้ทั้งตนและเจ้าของอู่อยู่ เขาจึงมาก่อเหตุ เพื่อนตนยิงสวนกลับหมดแม็ก แล้วถึงกระโดดกำแพงหนี

ขณะเดียวกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงค่ำวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา บริเวณข้างบ้านเกิดของ นายอเนก เจ้าของอู่ จับภาพได้ใน ขณะที่  นายไพรัตน์ (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวว่า ทางด้านเจ้าของอู่ คือ นายอเนก ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนจนกลายเป็นข่าว ปรากฎว่าหลังจากนั้น นายไพรัตน์ ได้เดินทางไปหามารดาของ นายอเนก เจ้าของอู่ถึงยังบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเคลียร์ปัญหา กระทั่งล่าสุดควงปืนกลับย้อนกลับมาก่อเหตุยิงใส่นายเอนกที่อู่ จนถูกนายเอนกกัดฟันสู้คว้าปืนยิงสวนจนเสียชีวิต

เบื้องต้น ตำรวจจะได้เชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำและเข้าสอบปากคำ นายเอนก อีกครั้ง หลังพักรักษาตัวจนอาการปลอดภัยและให้การได้ ส่วนปมเหตุคาดว่ามาจากปัญหาการซ่อมรถที่ไม่ลงตัวจนมีการฟ้องร้องคดีและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล กระทั่งผู้เสียชีวิตวนกลับมาพยามก่อเหตุหลายครั้งจนสุดท้ายเกิดเหตุสลดในครั้งนี้

ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก ที่ใช้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดย 1 กระบอกเป็นปืนของผู้เสียชีวิต คือ นายไตรรัตน์ ที่เตรียมมายิงใส่ทางด้านเจ้าของ อู่ คือ นายอเนก จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบผู้เสียชีวิต ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ บริเวณอกขวา และ บริเวณมือทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ ก่อนจะมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส  ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ จากการสอบถามพยานแวดล้อมเบื้องต้นทราบว่า คนก่อเหตุเคยเอารถมาซ่อมที่อู่นี้แล้วมีปัญหากับเจ้าของอู่ คืออาจจะไม่ได้รับการซ่อมเป็นที่พอใจ และจากการสอบถามเพื่อนเจ้าของอู่ ก็มีการฟ้องร้องกันไปที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ผลออกมาว่า ทางเจ้าของอู่เป็นฝ่ายทำถูก (ผู้ชนะการฟ้องร้อง) แล้วผู้ก่อเหตุเหมือนมีความรู้สึกไม่พอใจ ก็แวะเวียนมาหาเจ้าของอู่โดยพกพาอาวุธปืนมาด้วย วันนี้ก็เลยเกิดเหตุที่ทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธปืนยิงกัน เป็นปืนออโตแมนติกทั้งคู่กระสุนปืนจึงมีจำนวนหลายนัด ทำให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนเจ้าของอู่ก็ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลสินแพทย์

ส่วนอาวุธปืนที่หายไปจากที่เกิดเหตุ เราตามเจอเรียบร้อย ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของเจ้าของอู่ คนในอู่ได้นำไปซ่อน ทางฝ่ายสืบสวนได้ให้คนดังกล่าวไปนำกลับมาแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นปืนมีทะเบียน แต่เป็นปืนผิดมือ (ปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ที่ครอบครองไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืนกระบอกนั้น) ส่วนข้อเท็จจริงกับภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ในระหว่างสอบสวน เบื้องต้นเก็บไปแล้วอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าของอู่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณลำตัว และบริเวณขา

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน