วันที่ 11 ก.ย. 2568 พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.ประกิจ สงสวาสดิ์ สว.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.บุญนำ โสมอินทร์ สว.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมกำลังชุดจับกุม ได้แถลงผลการจับกุมผู้หาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ ได้ผู้ต้องหารวม 5 คน ประกอบด้วย 1. นายมานนท์ อายุ 42 ปี 2. นายอนุพงษ์ อายุ 36 ปี 3. นายวุฒิชัย อายุ 34 ปี 4. นายศักนรินทร์ อายุ 30 ปี 5. นายภูวดล อายุ 18 ปี
พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ไฮลักซ์วีโก้ สีบรอนด์ มีลูกกรงหลังคาด้านหลัง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA แกนด์ฟีลาโน่ สีเทาดำ (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) โดยมีนายวุฒิชัย เป็นผู้ขับขี่ดูเส้นทาง ที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่น เวฟ125 สีดำ ทะเบียน 1กผ 1154 เลย ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกปล้นไป และยังมีอาวุธปืนลูกโม่ยี่ห้อ SMITH & WESSON ขนาด .38 สีดำ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 5 นัด กระสุนปืน ขนาด .38 ไว้สำรองอีกจำนวน 11 นัด เป็นของนายวุฒิชัย ใช้สำหรับก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีเสื้อ กางเกงรองเท้าผ้าใบของผู้ต้องหาที่ใส่ก่อเหตุบริเวณถนนเส้นสองโล ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และบริเวณถนนสังฆจายเถร-บางปลาม้า ต.สวนแตง
พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สายวันที่ 10 ก.ย. 68 ได้มี นายสรสิช อายุ 20 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ติดตามจับกุมคนร้ายยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เนื่องจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.10 น. ขณะที่ผู้แจ้งขับขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1กพ 2197 สุพรรณบุรี ขับมาตามถนนเส้นสองโล ต.ทับตีเหล็ก อ.เมืองสุพรรณบุรี มีคนร้ายขี่รถยนต์กระบะไม่ติดทะเบียน ขับรถมาปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้แจ้ง ทำให้ผู้แจ้งได้รับบาดเจ็บ
โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้จอดรถซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ต่อมา ได้มีรถยนต์ขับผ่านมา คนร้ายจึงได้ขับหลบหนี หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ประสาน กับชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ถนนเส้นสองโล ตำบลทับตีเหล็ก พบ คนร้ายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA สี บรอนด์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีลูกกรงหลังคาด้านหลังก่อเหตุ
ห่างกันไม่นาน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจาก ศปก สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่ามีผู้เสียหาย คือ นายเสถียร อายุ 65 ปี ได้โทรมาแจ้งที่ ศปก สภ.เมืองสุพรรณบุรี มีคนร้ายขับรถกระบะ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีลูกกรงหลังคาด้านหลัง ขับรถปาดหน้ารถของผู้แจ้งและมีชายคนร้าย 2 คนลงจากรถ และใช้กำลังทำร้าย และได้ใช้อาวุธปืนขมขู่ จากนั้น ได้ขับรถจักรยานยนต์ของผู้แจ้งและรถยนต์ของคนร้ายมุ่งหน้าไปทางเส้นทางบางปลาม้า ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนหาข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเมื่อได้ข่มขู่เอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายมาแล้ว และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกมาจากที่เกิดเหตุ แล้วได้นำรถจักยายนต์คันดังกล่าวขึ้น ท้ายรถกระบะและมุ่งหน้าไปเส้นทางบ้านวังน้ำเย็นบางปลาม้า - บางพลับสองพี่น้อง
ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 2 พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA แกนด์ฟิลาโน่ สีเทาดำ (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) โดย นายวุฒิชัย หรือบิ๊ก เขียวสะอาด เป็นคนชี้เป้า และให้รถยนต์กระบะเป็นคันก่อเหตุ เมื่อก่อเหตุแล้วก็หลบหนีไปตามเส้นทางบ้านวังน้ำเย็นบางปลาม้า - บางพลับ อำเภอสองพี่น้อง มุ่งหน้าเข้าเขต หมู่บ้านหนองโพธิ์ หมู่ 6 ตำบลศรีสำราญ อำเภอสองพี่น้องฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ประสานตำรวจ สภ.สองพี่น้อง วางแผนเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA สี บรอนด์ หมายเลขทะเบียน บว 9037 สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ แต่ได้ถอดลูกกรงหลังคาด้านหลัง ออกแล้ว และได้ตรวจสอบภายในบ้าน พบผู้ต้องหาที่ 1-4 อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และพบอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางทั้งหมดมายัง สภ.เมืองสุพรรณบุรีเพื่อขยายผลต่อ
ต่อมา นายภูวดล อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาที่ 5 เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี จึงได้จับกุมตัวแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบสวนนายมานนท์ ให้การว่าตนเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ประมาณ 2 เดือนหลังพ้นโทษได้เดินสายเป็นวิทยากรสอนเกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ ตามเรือนจำสุพรรณ และทัณฑสถานหญิงกลาง มีรายได้ ครั้งละ 8,000 - 12,000 บาท แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงชวนกันออกมาก่อเหตุปล้นรถจักรยานยนต์ตามออเดอร์ ของคนที่รู้จักกันตอนติดคุก โดยจะหารถจักรยานยนต์รุ่นที่ลูกค้ากำลังต้องการ ขายราคาคัน 20,000 กว่าบาท ซึ่งคนรับซื้อจะส่งออกไปขายตามแนวตะเข็บชายแดน นำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเล่นการพนันออนไลน์
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า 1. นายอนุพงษ์ หเคยต้องโทษคดี พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี เขตพื้นที่ สภ.สองพี่น้อง ภ.จว.สุพรรณบุรี 2. นายมานนท์ หเคยต้องโทษคดี ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย, ปล้นทรัพย์, ชิงทรัพย์ 3 คดี ในเขตพื้นที่ สภ.สามชุก ภ.จว.สุพรรณบุรี ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเขตพื้นที่ สภ.สระแก้ว ภ.จว.สุพรรณบุรี 3. นายศักดิ์รินทร์ เคยต้องโทษคดี มี ใช้อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุน ในเขตพื้นที่ สภ.สองพี่น้อง ภ.จว.สุพรรณบุรี 4. นายวุฒิชัย เคยต้องโทษคดี พยายาม ฆ่าผู้อื่น, ในเขตพื้นที่ สภ.สระยายโสม ภ.จว.สุพรรณบุรี พยายามฆ่าผู้อื่น ในเขตพื้นที่ สภ.ชัยบาดาล ภ.จว.ลพบุรี 5. นายภูวดล ไม่เคยต้องโทษ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 5 คนในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ต้องหา 4 คนมีความเกี่ยวพันเป็นพ่อ ลูก เป็นพี่น้อง และเป็นเพื่อนกัน มีภาพกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายออกตระเวนหาเหยื่อ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี รายงาน