เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2568 กองกำลังผาเมือง ได้รับรายงานว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย จึงมอบหมายให้ กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ และ กองร้อยทหารพรานที่ 3207 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณช่องทางปางตอง เขตบ้านหนองเต่า ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวนประมาณ 30 – 40 คน แบกเป้สัมภาระเดินเท้าเข้ามา จึงได้ส่งสัญญาณแสดงตนเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มขบวนการได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี จนเกิดการยิงปะทะตอบโต้กันนานประมาณ 15 นาที เมื่อเสียงปืนสงบเจ้าหน้าที่ได้เรียกกำลังเสริมเพื่อวางกำลังควบคุมพื้นที่

จากนั้น เวลาประมาณ 08.00 น. ได้เกิดการยิงปะทะกันอีกครั้ง เนื่องจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้นำกำลังย้อนกลับเข้ามายังบริเวณจุดปะทะอีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะแย่งชิงยาเสพติดของกลางที่ตกอยู่ในพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดปะทะ ซึ่งรอบนี้เกิดการยิงปะทะตอบโต้กันนานกว่า 30 นาที หลังเสียงปืนสงบพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย ส่วนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้ล่าถอยไป

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา พ.อ.ไมตรี ศรีสันเที๊ยะ เสนาธิการกองกำลังผาเมือง ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ให้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจนับของกลาง ต้องใช้เวลาเดินทางนานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ในป่าลึกและมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ก่อนจะเปิดเผยว่า กระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลังบรรจุยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 42 เป้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าภายในเป็นยาบ้าจำนวนเป้ละประมาณ 100,000 เม็ด ทำให้ยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้นับรวมทั้งหมดได้ประมาณ 4,200,000 เม็ด

นอกจากยาเสพติดดังกล่าวแล้ว ในที่เกิดเหตุยังพบศพของกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมอีก 1 ศพ ใกล้กันกับศพพบอาวุธปืนลูกซองยาวแบบประดิษฐ์เองจำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองจำนวนหนึ่ง และยังพบปลอกกระสุนปืนอากาตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย หลังการตรวจจุดเกิดเหตุกองกำลังผาเมือง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฝาง เพื่อเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ รายงาน