เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และอาสามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงพบศพนายทวีศักดิ์ อายุ 43 ปี ชาว ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบ พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่บริเวณชายโครงซ้าย 1 นัด ชายโครงขวา 1 นัด  ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.นาป่า หลังก่อเหตุได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เนื่องจากถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและได้โทรศัพท์ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบสวนนายชัยวัฒน์ อายุ 45 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงสายของวันนี้ตนและเพื่อนอีก 3 คน กำลังนั่งกินเหล้าขาวอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านของตนเอง ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ กระทั่งเวลาประมาณบ่าย 2 ครูประจำชั้นของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าชื่ออะไรได้ขับรถยนต์มาส่งลูกสาวที่บ้าน พร้อมกับถือเหล้าสีมาด้วย 1 ขวด พร้อมกับโซดา 3 ขวด เข้ามานั่งร่วมวงด้วย ระหว่างนั้นลูกสาวตนก็ได้เดินออกจากบ้านไป จากนั้น ครูก็ได้นั่งพูดคุยกันเรื่องให้ตนกำชับและดูแลให้ลูกสาวไปโรงเรียนด้วย เพราะลูกสาวขาดเรียนบ่อย

สักพักนายทวีศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นญาติของตนเองก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาพูดคุย และร่วมวงดื่มเหล้าด้วย ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง นางครึ้ม ซึ่งเป็นแม่ของตนเองได้เดินมาจากบ้านและได้เข้ามาสอบถามว่า คนไหนเป็นครูที่ลวนลามหลานสาวตนเอง ครูคนดังกล่าวก็บอกว่า ตนไม่ได้ลวนลามและได้พยายามที่จะอธิบาย แต่ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตได้ตรงเข้าไปชกที่ใบหน้าครูหลายครั้ง จนครูคนดังกล่าวเดินออกไปและได้หันกลับมาใช้ปืนยิงใส่นายทวีศักดิ์หลายนัด ทางนายทวีศักดิ์พยายามวิ่งหนี แต่ก็ล้มลงเสียชีวิตดังกล่าว

ทางด้านนายศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง เล่าว่า ตนมานั่งดื่มเหล้าที่บ้านนายชัยวัฒน์ตั้งแต่ช่วงสาย ๆ กระทั่งบ่าย 2 ครูได้ขับรถมาส่งลูกสาวของนายชัยวัฒน์ พร้อมกับถือเหล้าสีมา 1 ขวดและโซดา 3 ขวดมานั่งดื่มด้วย ผู้เสียชีวิตซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆ กันก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาพูดคุยและร่วมดื่มเหล้าด้วย ขณะที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่นั้น นางครึ้ม ซึ่งเป็นแม่ของนายชัยวัฒน์และเป็นย่าของ ด.ญ.เอ ได้เข้ามาสอบถามว่า คนไหนเป็นครูและทำไมต้องลวนลามหลานสาวตน ซึ่งครูก็ได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำ ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตก็ได้ชกเข้าไปที่ใบหน้าของครูหลายครั้ง ครูจึงได้เดินหนีไป สักพักตนก็ได้ยินเสียงดังขึ้น 1 ครั้ง ตอนแรกนึกว่าเป็นเสียงประทัด จากนั้น ก็ดังขึ้นอีกหลายครั้งและได้เห็นนายทวีศักดิ์เอามือกุมหน้าอกพร้อมกับวิ่งหนี ตนเห็นดังนั้น จึงได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง กระทั่งทราบว่า นายทวีศักดิ์ถูกครูยิงจนเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากผู้เสียชีวิตโกรธแค้นที่ครูลวนลามหลานสาว จึงชกเข้าไปที่ใบหน้าของครู ก่อนที่จะถูกครูยิงสวนจนเสียชีวิตดังกล่าว

ในขณะที่ นางครึ้ม อายุ 76 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับบ้านที่เกิดเหตุ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นหลานสาวได้เดินร้องไห้มาหาตน พร้อมกับเล่าว่าถูกครูประจำชั้นลวนลาม ขณะที่นั่งรถยนต์มาด้วย โดยการลูบแขนและลูบคอ ตนจึงเดินมาถาม แต่ครูคนดังกล่าวกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ทันใดนั้นนายทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นหลานญาติของตนเอง ก็ได้ชกไปที่ใบหน้าของครูคนดังกล่าว จนครูเดินหนีไปสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตอนแรกก็ไม่นึกว่าจะโดนใคร จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก นายทวีศักดิ์ได้วิ่งหนีไปหลังบ้าน ส่วนคนในวงเหล้าก็วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ตนก็ได้เดินกลับบ้าน โดยไม่ได้สังเกตว่านายทวีศักดิ์ไปล้มลงตรงไหน เมื่อกลับไปถึงบ้านสักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ ตนจึงเดินมาดูก็พบว่านายทวีศักดิ์นอนเสียชีวิตอยู่ข้างๆ บ้าน

ส่วน ด.ญ.เอ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยมีครู ช. เป็นครูประจำชั้น และยอมรับว่าไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน ซึ่งครูก็ได้มาตามและแจ้งผู้ปกครองแล้วหลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปนั่งเล่นอยู่บ้านเพื่อน ระหว่างนั้นครูก็ได้ขับรถยนต์มาและบอกให้ตนขึ้นรถมาด้วย โดยบอกว่าจะพาไปส่งที่บ้าน ตนจึงนั่งรถมาด้วย ระหว่างทาง ครูก็ได้ลูบแขนและลูบบริเวณต้นคอของตนเอง พร้อมทั้งบอกว่าจะจ้างวันละ 500 บาท ให้ตนไปโรงเรียน แต่ตนก็บอกว่าไม่เอา กระทั่งมาถึงบ้าน ตนจะบอกพ่อ แต่ครูก็เอาเหล้ามานั่งกินกับพ่อ ตนจึงเดินไปบอกย่า ย่าจึงเดินไปต่อว่าครู แต่ตนไม่ได้เดินไปด้วย จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมารู้ภายหลังว่าครูได้ใช้อาวุธปืนยิงญาติตนเองเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปเฝ้าผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน เบื้องต้นพบว่าถูกทำร้ายที่บริเวณใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต้องรอแพทย์วินิจฉัยว่าต้องนอนรักษาตัวหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการเชิญตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์ รายงาน