ตามความเชื่อพื้นบ้าน มองว่าช่วงปลายปีเป็นช่วงเวลาที่ต้องรักษาดวงและเก็บเงินไว้ให้ดี สามสิ่งต่อไปนี้ หากให้ยืมอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า อาจทำให้ทรัพย์ลาภลดน้อยลง โชคลาภหลุดลอยไป โดยที่หลายคนไม่รู้เลย
ในช่วงที่กำลังยุ่งกับการสรุปสิ่งต่าง ๆ ของทั้งปี หลายอย่างดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย การให้ยืมก็เหมือนมารยาททั่วไป แต่ตามความเชื่อโบราณกลับเชื่อว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับทรัพย์สิน เงินทอง และโชคลาภ ต่อไปนี้คือ 3 สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในคำเตือนว่า ควรเก็บไว้กับตัว อย่าเผลอให้ยืม
1. กระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์ไม่ใช่แค่ของสำหรับเก็บเงิน แต่ยังถูกมองว่าเป็นที่ ยึดโชคลาภ ของแต่ละคน ปลายปี กระเป๋าสตางค์สะท้อนกระแสเงินตลอดทั้งปี และบอกได้ว่าโชคด้านการเงินกำลังสะสมหรือกระจายไป การให้ยืมกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบเงินจากกระเป๋าไปให้คนอื่นยืมทั้งที่ใจไม่เต็มใจ ตามความเชื่อพื้นบ้าน ถือเป็นการตัดกระแสเงินของตัวเอง
หลายคนเชื่อว่า เงินในกระเป๋าช่วงปลายปี มีความหมายเสมือน เงินต้นของโชค เมื่อเงินก้อนนี้ออกจากมือโดยไม่มีแผนที่ชัดเจน ก็ง่ายต่อการเกิดความรู้สึกว่าขาดมือ และควบคุมการใช้จ่ายได้ยากขึ้น โดยเฉพาะการให้ยืมเงินสดจากกระเป๋าสตางค์ในช่วงใกล้ตรุษจีน/ปีใหม่ มักถูกมองว่าเป็นการ ให้โชคปีใหม่ออกไป ทำให้ปีถัดไปเก็บเงินยาก หาเท่าไรก็ไหลออกหมด
ความเชื่อนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้คนตระหนี่ แต่ย้ำเรื่องการ จัดการอย่างมีสติ หากอยากช่วยเหลือ ก็ควรใช้เงินที่แยกไว้ต่างหาก ไม่ควรหยิบออกจากกระเป๋าที่ใช้เป็นประจำ การรักษาสมดุลของกระเป๋าสตางค์ในช่วงท้ายปี จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาจังหวะทรัพย์ลาภ เพื่อก้าวสู่ปีใหม่อย่างเบาสบายและมั่นคง
2. สมุดบัญชี เอกสารเกี่ยวกับการเงิน
ปลายปีเป็นช่วงสรุปการเงิน ปิดบัญชี และตรวจงบต่าง ๆ ทำให้เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเงินทองถูกมองว่า อ่อนไหวต่อดวง การให้ยืมสมุดบันทึก สัญญาเอกสาร ใบกู้ยืม หรือแม้แต่เอกสารบ้านที่ดินในช่วงนี้ มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการสูญเสียอำนาจควบคุมด้านการเงิน
ตามมุมมองดั้งเดิม เอกสารไม่ได้มีแค่คุณค่าทางกฎหมาย แต่ยังแทนสิทธิ์และกระแสเงินในอนาคต การให้ยืมอย่างตามใจ โดยเฉพาะแบบไม่กำหนดระยะเวลา อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคง วิตกกังวล และส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินต่อไป สภาพจิตใจที่ไม่สงบช่วงปลายปี จึงถูกมองว่าไม่ดีต่อโชคด้านเงินทอง
การเก็บเอกสารการเงินให้เป็นระเบียบ ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการให้ยืมช่วงนี้ ถูกมองว่าเป็นการ “ปิดบัญชีดวงเก่า” เมื่อทุกอย่างอยู่ในการควบคุม ใจก็เบาสบายขึ้น และการตัดสินใจต้นปีก็เด็ดขาดมากขึ้น คนโบราณเชื่อว่านี่คือพื้นฐานให้ทรัพย์ลาภปีใหม่ไหลเข้าบ้านอย่างเป็นระบบ
3. ของใช้ฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับโชคลาภ
ของอย่างแหวน กำไล หรือสร้อยที่มีความหมายด้านฮวงจุ้ย โดยเฉพาะสิ่งที่สวมใส่เป็นประจำ ตามความเชื่อโบราณถือว่าได้ รับพลังดวง ของเจ้าของไปแล้ว ปลายปี การให้ยืมหรือส่งต่อสิ่งของเหล่านี้ จึงถูกมองว่าเป็นการส่งพลังโชคลาภออกไปโดยไม่ตั้งใจ
หลายคนถือว่าของฮวงจุ้ยเป็นสิ่งคุ้มครองใจ และช่วยให้การเงินมั่นคง เมื่อให้ยืม โดยเฉพาะเป็นเวลานาน มักเกิดความรู้สึกพร่อง และตามมาด้วยความลังเลในการใช้จ่ายหรือการลงทุน ความเชื่อพื้นบ้านมองว่า ดวงเงินปลายปีต้องการความนิ่ง ไม่ควรถูกรบกวนด้วยการเปลี่ยนมือสิ่งของที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
หากจำเป็นต้องแบ่งปัน ควรเลือกสิ่งของกลาง ๆ ที่ไม่ได้ผูกพันนาน หรือไม่เกี่ยวกับโชคลาภ การเก็บของฮวงจุ้ยประจำตัวไว้ในช่วงเปลี่ยนปี จึงถูกมองว่าเป็นการรักษา เสาหลักของดวง เพื่อให้ก้าวสู่ปีใหม่ด้วยที่พึ่งทั้งใจและการเงินที่มั่นคงกว่า
ปลายปี การ รักษา ไม่ได้หมายถึงการปิดกั้น แต่คือการรู้ว่าอะไรควรให้ และอะไรควรเก็บไว้ ทั้งสามสิ่งข้างต้น ตามความเชื่อพื้นบ้าน ล้วนผูกโยงกับกระแสเงินและโชคลาภของแต่ละคน การเก็บอย่างถูกที่ ถูกจังหวะ ไม่เพียงช่วยให้สบายใจในช่วงท้ายปี แต่ยังสร้างพื้นฐานทางใจที่ดี สำหรับการเริ่มต้นปีใหม่อย่างเบาใจและมั่นคง
ข้อมูลในบทความนี้มีไว้เพื่อความบันเทิงและเป็นเพียงความเชชื่อเท่านั้น
ที่มา phunutoday