
รวบ 1 ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ หลอกแรงงานไทยส่งต่างประเทศ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นางสาวพรรณทิพย์ฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล อาญา ที่ 3761/2567 ลงวันที่ 14 ส.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,อั้งยี่” สถานที่จับกุม หน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.ไทรเดี่ยว อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
ภาพเหตุการณ์
พฤติการณ์ ว่าที่ พ.ต.ต.สหรัฐ ยิ่งยวด สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.พรรณทิพย์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3761/2567 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2567 “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, อั้งยี่” การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก กก.6 บก.ป. ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายในหลายพื้นที่ ถึงพฤติกรรมการหลอกลวงชักชวนแรงงานไทยให้ข้ามแดน ไปทำงานฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนจะตกเป็นเหยื่อเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์
จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า น.ส.พรรณทิพย์ฯ คือสมาชิกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงชักชวนแรงงานไทย ให้ข้ามแดนไปทำงานฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา น.ส.พรรณทิพย์ฯ เดิมประกอบอาชีพค้าขาย ได้มีเพื่อนชักชวนให้ไปค้าขายในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา จนกระทั่งได้เข้าไปพัวพันกับการพนันในคาสิโนท้องถิ่น และเมื่อแพ้พนันจนหมดตัว ได้นำโทรศัพท์มือถือจำนำกับบ่อนคาสิโน พร้อมกับหนังสือเดินทางและทรัพย์สินไว้มีค่าเป็นหลักประกันหนี้สิน ภายหลังถูกกดดันให้ทำงานชำระหนี้ โดยทำหน้าที่หลอกลวงผู้คนฝั่งไทย ให้เดินทางเข้ามาทำงานภายในประเทศกัมพูชา ภายใต้ข้ออ้างเรื่องงานที่มั่นคงและรายได้สูง แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นการผลักเหยื่อเข้าสู่วงจรของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ต่อมาสถานการณ์ฝั่งประเทศกัมพูชาไม่ปกติ น.ส.ทิพย์จึงได้กลับมายังประเทศไทยและถูกจับกุมได้ในที่สุด
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน