สมชาย เตรียมยื่นหลักฐานเพิ่มต่อศาล ตอกย้ำ ทักษิณ ป่วยทิพย์

สมชาย เตรียมยื่นหลักฐานเพิ่มต่อศาล ตอกย้ำ ทักษิณ ป่วยทิพย์

วันนี้ (26 พ.ค.68) นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ขึ้นเวทีและสวมกอดกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ในขณะนี้ตนคิดว่านายสนธิ และนายจตุพรมีความชัดเจนว่า มีเจตนารมณ์ที่จะมาช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้น และเข้ามาเพื่อจะทำให้ประชาชนเกิดความสามัคคี หลอมรวมกัน ซึ่งปัญหาบ้านเมืองตอนนี้หนักจริงๆ จึงเป็นการรวมพลังของภาคประชาชนทุกฟากฝ่าย ที่เข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่ได้มุ่งตรงต่อรัฐบาล แต่มุ่งตรงต่อปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นว่าภาคประชาชนจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

ส่วนจะเป็นการผนึกกำลังเพื่อกำจัดระบอบทักษิณหรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า ระบอบทักษิณมีอยู่จริงหรือไม่ หากมีอยู่จริง และเลวร้ายจริงไม่ว่าจะเป็นนายสนธิ นายจตุพรหรือใครก็แล้วแต่ ก็ต้องกำจัดระบอบทักษิณทิ้ง แต่หากมันไม่มีอยู่จริงก็ไม่ต้องกังวล แต่ถ้ามีอยู่จริงผมว่าคนไทยทุกคนก็ต้องกำจัดระบอบนี้ ส่วนของนายสนธิกับนายจตุพรที่เราจะได้เห็นว่า ภาคประชาชนจะขยับเข้าหากันมากขึ้น แต่การขยับเข้าหากันก็จะต้องมีการหารือกันว่าบ้านเมืองควรเดินไปทิศทางไหน รัฐบาลจะกลายเป็นเรื่องเล็ก แต่ทำปัญหาใหญ่ ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่านักการเมืองแก้ไม่ได้ บางพรรคไม่เต็มใจที่จะแก้ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนโดยตรง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะปรากฏตัวในงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อเป็นการจะโชว์ว่าตนเองยังมีบทบาทอยู่ไม่ และได้หนีไปไหนจากคดีชั้น 14 นายนิติธร ระบุว่า รัฐมนตรีที่เชิญต้องไปอ่านบทบัญญัติมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญว่า มันควรประพฤติผิดมาตราจริยธรรมหรือไม่ เพราะนายทักษิณแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยการใช้กำปั้นเหล็ก สังหารไป 2 พันกว่าศพ แล้ววันนี้เชิญคนแบบนี้มากล่าวในเรื่องนี้

ขณะเดียวกันมีเรื่องที่ว่านายทักษิณติดคุกหรือไม่ และป่วยหรือไม่ อันนี้เป็นจิตสำนึกของรัฐมนตรี จะชั้นต่ำหรือชั้นสูงก็ไปคิดเอา ซึ่งการทำอย่างนี้แล้วบ้านเมืองดีขึ้นหรือไม่ กลไกบ้านเมืองและนิติธรรมไปต่อได้หรือเปล่า

ส่วนที่มีหลายคนมองว่าการออกมาเพื่อที่จะสยบข่าวลือว่าจะหนีไป เพราะในวันที่ 13 จะมีการไต่สวนคดีชั้น 14 นายนิติธร กล่าวว่า ทักษิณจะอยู่หรือจะไป จะหนีหรือไม่หนีก็จบแล้ว เพราะเป็นการดิ้นเฉยๆ ไม่ได้มีนัยยะอะไร ซึ่งสุดท้ายจะหนีหรือไม่หนีและต้องกลับเข้าคุก แต่คำว่าทักษิณก็จะจบไป วันนี้บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่ฉากใหม่ว่าจะการแก้ปัญหาอย่างไร นักการเมืองจะร่วมกับประชาชนหรือไม่ หรือจะมาจมปลักกับพฤติกรรมของนายทักษิณ ซึ่งภาคประชาชนก้าวข้ามนายทักษิณไปตั้งนานแล้ว พรรคการเมืองหลายพรรคก็ก้าวข้ามตั้งนานแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยต่างหากที่นำทักษิณเข้ามา และรอบนี้นำเข้ามาเพื่อให้เหยียบย่ำ และนำพาประเทศไทยติดกับดักไปด้วย

นายนิติธร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 13 มิ.ย. ศาลได้รวบรวมข้อเท็จจริงไว้หมดแล้ว ซึ่งในวันที่ 29 พ.ค. นี้ข้อมูลเพิ่มเติม และจะมีการแถลงรายละเอียดในวันนั้น ซึ่งศาลได้รวบรวมสำนวนและพิจารณา ก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งพยานหลักฐานส่วนหนึ่งมาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) และกรรมาธิการ กสม. ที่เป็นหน่วยงานรัฐเหมือนกัน รวมถึง แพทย์สภา ป.ป.ช. และกรมราชทัณฑ์ ถ้าหากไม่มีประเด็นใหม่จริงๆ ศาลอาจจะออกคำวินิจฉัยในวันนั้นได้ แต่หากนายทักษิณไม่มา และมีเหตุอันสมควรนั้น ศาลอาจจะพิจารณาเลื่อนออกไปอีกครั้ง แต่ถ้ามาแล้วไม่มีประเด็นใหม่ คิดว่าศาลออกคำวินิจฉัยวันนั้นเลย

ส่วนนายชาญชัย ระบุว่า ตนขอให้ความเห็นในฐานะที่เป็นผูัร้อง ที่ได้รับคำสั่งกระบวนการพิจารณาเพียงผู้เดียว การที่ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณไปแก้ข้อกล่าวหา เพื่อจะฟังว่านายทักษิณนั้นป่วยทิพย์หรือไม่ เพราะตั้งแต่กระบวนการเข้ามาของนายทักษิณจนไปถึงโรงพยาบาลทั้งหมด เป็นการหลอกลวงประชาชน ซึ่งในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ตนจะแถลงโดยมีหลักฐาน ถ้านายทักษิณไม่ชี้แจงที่ศาลเอง โดยศาลจะมีการไต่สวน และถาม เพื่อให้ได้คำตอบจากปากนายทักษิณ ไม่ใช่ปากทนาย ซึ่งหากนายทักษิณไม่ไป ถือเป็นการสละสิทธิ์ชี้แจง และจะเป็นผลเสียหายต่อนายทักษิณเอง ดังนั้นนายทักษิณควรไป

อีกทั้ง ในกรณีนี้ จากประสบการณ์ของตนเอง ศาลจะเป็นคนตั้งคำถาม และทำการบ้านจากเอกสารที่ทุกฝ่ายส่งเข้าไป ศาลจะตั้งคำถามที่สงสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และความจริงจะปรากฏจากครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของกระบวนการยุติธรรมไทยที่จะกลับมาถูกต้องอีกครั้ง

ด้านนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ตนจะยื่นเอกสารเพิ่มต่อศาล โดยเชื่อว่าหลักฐานจากการสอบของคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ถึง 12 ครั้งที่ระบุถึงการส่งตัวจากราชทัณฑ์ไป รพ.ตำรวจ และเอกสารหน่วยงานที่ส่งให้ กมธ.ความมั่นคงฯ ขัดต่อมติแพทยสภา ที่บอกว่าพบอาการป่วยขั้นวิกฤติ โดยอ้างว่าเป็นการรักษาเฉพาะทาง ซึ่งตามหลักจะต้องกลับไปรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ โดยตลอดระยะเวลา 181 วันพบหลักฐานทางวิทยาศาตร์ที่จะไปยื่นต่อศาลในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งพบว่ามีอาการป่วยเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ