
หมดแรงแล้ว! ชาวนาพ้อ ขายข้าว 1 กก.ยังซื้อบะหมี่กึ่งฯไม่ได้ หลังราคาข้าวเปลือกตกต่ำเหลือ 6 บาท/กก. วอนรัฐช่วยดันราคาให้สูงกว่านี้
วันที่ 24 พ.ค. 2568 ชาวนาในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่างสะท้อนปัญหาเดียวกันว่า แม้ผลผลิตปีนี้จะพอได้ แต่ราคาข้าวเปลือกกลับตกต่ำมาก โดยราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่วางขายทั่วไปซองละ 7 บาทด้วยซ้ำไป นั่นจึงทำให้รู้สึกว่า ข้าวไทยถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
จากการสอบถาม นายพงค์พิศชัย อายุ 50 ปี เกษตรกรชาวบ้านโกทา เปิดเผยว่า ปีนี้ขายข้าวได้เพียงกิโลกรัมละ 6 บาทเท่านั้น จากเดิมที่ปีที่แล้ว เปิดตลาดได้ถึง 8 - 10 บาท แม้ต้นทุนค่าปุ๋ยจะลดลงเล็กน้อย แต่ต้นทุนการผลิตอื่น ๆ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าจ้างรถเกี่ยว ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำแล้วมันรู้สึกหมดแรง จะให้เลิกก็ไม่ได้เพราะมันคืออาชีพ แต่ก็อยากวิงวอนรัฐบาลให้ช่วยดันราคาข้าวขึ้น ยืนพื้นที่กิโลละ 10 บาท ถึงจะพออยู่ได้
ทางด้านนางอัมรา อายุ 67 ปี เกษตรกรในพื้นที่เดียวกัน ระบุว่า ราคาข้าวเปลือกที่แห้งสนิทขายได้เพียงกิโลกรัมละ 6 บาท ส่วนข้าวที่ยังมีความชื้นอยู่ถูกหั่นเหลือแค่ 5 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูง ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา และราคาพันธุ์ข้าวที่ปีนี้พุ่งถึงกระสอบละ 900 บาท อยากให้รัฐบาลรีบจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทที่เคยประกาศไว้ แล้วก็ขอให้ช่วยผลักดันราคาข้าวให้สูงขึ้น อย่างน้อยกิโลละ 8 – 9 บาทก็ยังดี
ทั้งนี้ เกษตรกรในพื้นที่เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำอย่างจริงจัง ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือเฉพาะหน้า แต่ควรมีมาตรการระยะยาวเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้เหมาะสมกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง เพื่อให้ ข้าวไทยไม่ถูกกว่าบะหมี่กึ่งฯ และอาชีพชาวนายังดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง