จากกรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2568 พ.ต.ท.สันต์ภพ พลเรือง พนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีลักษณะผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในรถเก๋ง หน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในหมู่ที่ 6 ต.หนองบัว จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชัยมิตร สิทธิพูน ผกก.สภ.พัฒนานิคม ทราบพร้อมทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ภัยฯ ได้ร่วมกันใช้ค้อนทุบกระจกรถยนต์เก๋ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่นิ่ง แต่เครื่องยนต์ยังติดอยู่ โดยประตูฝั่งคนขับพบร่างชายไม่ทราบชื่อ เมื่อประตูเปิดพบร่างชายนอนไม่ไหวติง สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน มีหมอนรองที่คอ สะพายกระเป๋าสีน้ำตาล มีขวดน้ำดื่มวางอยู่ใกล้ตัว ในมือกำโทรศัพท์มือถือ แต่ลักษณะคล้ายตัวยังอุ่น จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.แต่เนื่องจากชายคนดังกล่าวกรามแข็ง ไม่มีชีพจร คาดเสียชีวิตมานานกว่า 2-3 ชม. แล้ว

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้น ภายในรถไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และร่องรอยการถูกทำร้าย ที่ฝั่งวางเท้าด้านซ้ายพบเตาและพบแคปซูลยาที่กินเข้าไปหลายเม็ดวางอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในกระเป๋าผู้เสียชีวิตทราบชื่อจากบัตรประจำตัวระบุชื่อว่าที่ ร.ต.พงศธร อายุ 44 ปี ชาว อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

จากการสอบถามเจ้าของร้านกาแฟ และจากกล้องวงจรปิดได้จับภาพรถคันดังกล่าวขณะที่ขับเข้ามาจอด ตั้งแต่เวลาประมาณตี 02.00 ของวันที่ 4 พ.ค. 2568 แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ซึ่งคิดว่ามาจอดนอนพักผ่อน โดยไม่คิดจะเกิดเหตุเศร้าภายในรถ จนรุ่งเช้าเดินเข้ามาดู เห็นว่ารถยังติด มีชายนอนอยู่ไม่ไหวติง จึงได้เคาะประตูเรียก แต่ไม่ตอบรับจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ วงจรปิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

ล่าสุด (5 พ.ค. 2568) มีรายงานว่า แฟนเพจ อีซ้อขยี้เละ ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า วิมานหนาม เวอร์ชั่น ชีวิตจริง สุดสลด คู่รัก LGBT ลงทุนทำคาเฟ่ด้วยกันเกือบ 30 ล้าน (ไร่....ลพบุรี) เมื่อกาลเวลาก็เปลี่ยนไปอะไรก็ไม่เหมือนเดิม เมื่อฝ่ายหนึ่งเงินเริ่มหมดลง ความรักที่อีกฝ่ายเคยมีให้ก็หมดตามไปด้วย และบอกจะเอาแฟนใหม่เข้ามาอยู่ เลยไล่แฟนปัจจุบันออกจากบ้าน เพราะจะเอาแฟนใหม่ที่เป็นฝ่ายรุกเข้ามาอยู่แทน ฝั่งแฟนคนปัจจุบันรับไม่ได้ที่สูญเงิน 22 ล้าน แถมเสียคนที่รักไปอีก เลยก่อเหตุสลดหน้าไร่... เพื่อให้เป็นภาพจำของแฟน และญาติพี่น้องที่รวมหัวกันขับไล่ผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าหรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว ทางทีมข่าวจะมารายงานให้ทราบต่อไป