
สลด! วันพระใหญ่ เกิดอุบัติเหตุพร้อมกัน 3 ราย เสียชีวิต 3 คน
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ศูนย์วิทยุพระนครได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรายแรกเกิดขึ้นบนถนนเทพรัตน เลนด่วน กม.11 ขาเข้า ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงส่งอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูไปตรวจสอบ พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบว่า ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย วัย 28 ปี หนึ่งราย ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีแดง ทะเบียน 4208 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่ ริมถนนเลนขวา ใกล้กัน ที่เลนกลางพบ ร่าง ของ นายวรเชษฐ์ อายุ 28 ปี ที่ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศีรษะถูกรถพ่วงทับจนมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนน
จาการสอบถาม นายยุทธ ชาวจังหวัด กาญจนบุรี คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนจอดรถพ่วง 18 ล้อ ที่เสียเบรกล็อก อยู่ริมถนนเลนซ้าย ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน ขับขี่แข่งกันมา ด้วยความเร็วในเลนด่วน ช่องขวาสุด และเกิดเสียหลัก เกี่ยวกันจนรถจักรยานยนต์ ผู้ตายล้มลง คนขับกระเด็นออกมาจากรถจักรยานยนต์ ออกมาที่เลนกลาง โดนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อที่วิ่งมา ช่วงท้ายพ่วงทับเสียงดัง และรถพ่วง ก็วิ่งไปจอดเลยไปประมาณ 100 เมตร สักพักและขับหลบหนีไปทางด้าน บางนา ส่วนเพื่อนผู้ตาย ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาดูเพื่อนเดี๋ยวเดียวและพากันขับขี่รถจักรยานยนต์ แยกย้ายกันไปหมด ปล่อยให้ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนแบริเออร์พลาสติกกั้นถนน คนขับเสียชีวิต ถนนบางพลี หนามแดง หมู่ที่ 2 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุ เป็นถนนที่ กำลังก่อสร้าง บริเวณที่เกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง หรือป้ายบอกทาง มีเพียง แบริเออร์พลาสติกกั้นถนน ไว้ 2 อัน เนื่องจากทางข้างหน้าเพิ่งลงหินก่อสร้างไว้ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกุปปี้ สีดำ ทะเบียน 702 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กัน พบ ร่างของ นายอภิเทพ อายุ 29 ปี ที่นอนหงายเสียชีวิต ที่คอหัก ศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ ห่างออกไป 50 เมตร พบ แบริเออร์พลาสติกกั้นถนน ถูกชนจนแตกกระจาย กระเด็น มาไกลกว่า 50 เมตร ตกอยู่ริมถนน
จาการสอบถาม นายอำนวน เกษสิริ อายุ 30 ชาว จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า ตนนั่งอยู่ข้างร้านค้าริมถนน เห็นรถจักรยานยนต์ ของผู้ตาย ขี่มาด้วยความเร็ว ชนเข้ากับ แบริเออร์พลาสติกกั้นถนน ที่กำลังก่อสร้างอยู่ จนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายและ แบริเออร์พลาสติกกั้นถนน กระเด็นมาด้วยกัน จนผู้ตายกระเด็นออกจากรถจักรยานยนต์ ศีรษะกระแทกพื้น ตนและเพื่อนวิ่งออกมาดูพบว่านอนแน่นิ่ง ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ พ.ต.ท.สพัศ ปราการพิทักษ์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.บางแก้ว หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มอบศพผู้เสียชีวิต นำส่งชันสูตร รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร ตามกฎหมายต่อไป และจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
ส่วนเหตุการณ์ที่สาม เกิดขึ้นในเวลาไล่เรียงกันห่างกันไม่กี่นาที รายนี้เกิดขึ้นบนถนนเทพรัตน ขาเข้า ช่องทางคู่ขนาน หลักกิโลเมตรที่ 29 ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยามมาฮ่าสีแดง/ดำคันหนึ่งล้มคว่ำกลางถนนใกล้กันพบร่างของ นาย ธนพงษ์ อายุ 47 ปี เสียชีวิตในสภาพที่ยังสวมหมวกกันน็อกอยู่ โดยถูกรถไม่ทราบชนิดทับเข้าที่ศีรษะจนหมวกกันน็อกแตก,กะโหลกแตก มันสมองกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบ่อ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมกันตรวจสอบและชันสูจน์พลิกศพในที่เกิดเหตุก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูจน์อีกครั้งที่นิติเวชรามาจักรกรีนฤบดินทร์
ด้าน นาย สรวิชญ์ ผัดผล คนเห็นเหตุการณ์ บอกว่า คนที่เสียชีวิตนั้นขับรถแซงตนเองมาได้ไม่ไกลจนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งข้างหน้ามีรถบรรทุก18ล้อจอดและกำลังจะออกตัว จังหวะนั้นด้านข้างของรถบรรทุกมีรถจักรยานยนต์สองผัวเมียคันหนึ่ง โดยที่ผู้เสียชีวิตขับฝ่ากลางระหว่างรถจักรยานยนต์และรถบรรทุกที่กำลังโยกหัวออกตัว ซึ่งจังหวะที่รถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตกำลังแซงฝ่ากลางได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์สองผัวเมียทำให้เขารถล้มและศรีษะมุดเข้าล้อรถบรรทุกคันที่กำลังเคลื่อนออกตัวพอดี จึงถูกทับศรีษะต่อหน้าต่อตา
ส่วนรถบรรทุกคาดว่าคนขับไม่ทราบว่าเหยียบหัวคนขับจยยจึงขับรถออกจากที่เกิดเหตุไป ตนเองตอนนั้นยอมรับว่าช็อกกับภาพตรงหน้า ขณะที่จองรถลงมาดูคนขับพบว่ารถจักรยานยนต์สองผัวเมียขับวนกลับมาจึงบอกให้รีบไปขับรถตามรถบรรทุกไปแต่ก็หายไปทั้งรถจักรยานยนต์ผัวเมียและรถบรรทุกตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์อุบัติเหตุทั้งสามรายนี้ เกิดขึ้นในเวลาไล่เรียงกันห่างกันไม่กี่นาที ทั้งสามเหตุการณ์ เกิดขึ้นในวันพระใหญ่ คือค่ำคืนของวัน มาฆบูชา ในปีนี้
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน