เปิดใจหลวงพ่อวัดเขาหินเทิน ปลีกวิเวกจำวัดแบบเรียบง่ายกว่า 42 ปี  ใส่จีวรตัดปะจากผ้าบังสุกุล ฉันวันละมื้อ

เปิดใจหลวงพ่อวัดเขาหินเทิน ปลีกวิเวกจำวัดแบบเรียบง่ายกว่า 42 ปี ใส่จีวรตัดปะจากผ้าบังสุกุล ฉันวันละมื้อ

จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียกำลังให้ความสนใจ พระวัดเขาหินเทิน ที่หมู่ที่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งปัจจุบัน เหลือพระจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียวคือ หลวงพ่อเกษตร หรือ พระเกษตร ปคุโณ ซึ่งท่านอุปสมบทมาเป็นเวลา 51 พรรษา ปัจจุบัน อายุ 80 ปี เดิมชื่อ นายเกษตร ธงพุทธรักษ์ โดยพระท่านเป็นพระปฎิบัติที่สวมใส่จีวร ลักษณะตัดปะจากเศษผ้าบังสุกุล หลายสี หลากเนื้อผ้า ปลีกวิเวก จำวัดแบบเรียบง่าย ฉันท์วันละมื้อ ซึ่งปฏิบัติต่อเนื่องมานานกว่า 42 ปี แล้ว

โดย หลวงพ่อเกษตร กล่าวถึงเหตุผลที่สวมใส่จีวรในลักษณะดังกล่าวว่า ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าได้สวมใส่ผ้าบังสุกุล หมายถึงผ้าเปื้อนฝุ่น ท่านจึงได้ปฏิบัติตามคำสอนในพระไตรปิฎก โดยปฎิบัติมานานเป็นเวลากว่า 42 ปีแล้ว หลังจากที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2515 ขณะที่ท่านอายุได้ 28 ปี ที่วัดอ่างทองวรวิหาร

จากนั้นได้เริ่มออกธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาความสงบ กระทั่งมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์เขาคั่นกระได อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี พศ.2524 และเริ่มสวมจีวรตัดปะดังกล่าว แต่สำนักสงฆ์อยู่ในเขตชุมชน ยังเห็นถึงความวุ่นวาย จึงออกเดินธุดงค์เพื่อหาสถานที่สงบ ห่างไกลจากผู้คน กระทั่งพบที่ป่าธรรมชาติบริเวณเขาหินเทิน บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก ในปี พ.ศ.2526 จึงตัดสินใจจำพรรษาอยู่ที่เขาหินเทินเรื่อยมา เป็นระยะเวลา 40 ปี

โดยวัดเขาหินเทินนี้ แรกเริ่มมีพระภิกษุจำพรรษาจำนวนหนึ่ง แต่เนื่องจากความเคร่งครัดในระเบียบและการประพฤติปฏิบัติเรียบง่าย สงบ ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยที่วัดปราศจากไฟฟ้า อาศัยนอนใต้ก้อนหินใหญ่ หรือต้นไม้ ประกอบกับวัตรปฏิบัติฉันท์อาหารเพียงมื้อเดียว จึงทำให้พระหลายรูปอยู่ที่นี้ไม่ได้ หากมีภารกิจ มีการประชุมสงฆ์ จะสวมจีวรปกติที่ญาติโยมนำมาถวาย เพื่อสนองงานทุกอย่างของคณะสงฆ์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีพระทักเรื่องการสวมใส่จีวรตัดปะ เชื่อว่าพระทุกรูปเข้าใจวัตรปฏิบัติ สอดคล้องในพระไตรปิฎก และให้เกียรติที่จะไม่ถามไม่พูดถึง

ปัจจุบัน เริ่มมีชาวบ้านมาที่วัดมากขึ้นกว่าอดีต แต่เมื่อเราไม่มีอะไรให้เขา ไม่มีของคลังของพิเศษ ไม่ดูฤกษ์งามยามดี ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเดรัจฉานวิชา เมื่อไม่มีอะไรให้ ชาวบ้านก็ไม่มา ถึงมาแล้วคุยกันพอรู้เรื่อง ได้สนทนาธรรมบ้าง สิ่งที่ปฏิบัติมาตลอด คือ การรักษาความสงบ วิเวกตามธรรมชาติ เราไม่สร้างอะไรมาก ทำแค่พออยู่

อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อเกษตร ยังได้ฝากถึงพุทธศาสนิกชนที่ต้องการมาสนธนาธรรมที่วัดว่า ไม่ต้องนำธูปเทียนมาถวาย เนื่องจากมีเขม่า มีขี้เถ้ารก ส่วนอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มสำเร็จรูป อย่างเช่น ปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป หากฉันท์นาน ๆ ไปจะเป็นอันตรายกับไต เสียสุขภาพ พวกเครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟสำเร็จรูป ขิงผง มะตูมผง รังนก ประกอบด้วยสารเคมีอันตรายทั้งนั้น ขอย้ำว่าไม่ต้องนำมาถวาย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ