วันที่ 22 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวหนึ่งประสบชะตาชีวิตแสนลำบากสาวใหญ่ซึ่งมีฐานะยากจนไม่มีรายได้อะไรต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียงนอน2คนและต้องเลี้ยงดูหลานถึง4คนวิงวอนผูใจบุญช่วยเหลือด้วย ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 7 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พบกับนางจุรีวรรณ สมรักษ์ อายุ 52ปี กำลังดูแลผู้ป่วยติดเตียง2คนอยู่ในบ้านพัก คนแรกเป็นสามีชื่อนายอำนวย สมรักษ์ อายุ 58ปีสามีที่นอนป่วยติดเตียง และนายกิตติพงศ์ สมรักษ์ อายุ 28ปีลูกชายที่ถูกรถชนนอนป่วยติดเตียงเช่นกัน และภายในบ้านยังมีหลานวัยเล็กๆที่ต้องเลี้ยงดูอีก4คน

นางจุรีวรรณ เล่าว่าตนและครอบครัวต้องประสบชะตาชีวิต หลังจากสามีที่ป่วยเป็นโรคพากินสันจนต้องนอนป่วยติดเตียงอยู่นานหลายปี ส่วนลูกชายก็มาประสบชะตากรรมประสบอุบัติเหตุในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีเมื่อ8เดือนที่ผ่านมา จนต้องมานอนป่วยติดเตียงตามมาอีกราย จนต้องมาเป็นภาระของตนเพียงคนเดียวที่ต้องดูลผู้ป่วยติดเตียงในบ้านถึง2คนแล้วยังต้องเลี้ยงหลานๆที่อาศัยอยู่ในบ้านอีก4คน ฐานะของครอบครัวยากลำบากมากเพราะตนมาอาชีพรับจ้างทั่วไป หาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แต่ไม่พอกับรายจ่ายเยอะมาก ปัจจุบันพอได้กินได้ใช้กับรายได้เล็กน้อยจากสวนปาล์มข้างบ้านเดือนละไม่ถึงพันบาท จ่ายค่าไฟฟ้าของครอบครัวทั้งค่าอาหารเลี้ยงคนในครอบครัวและเลี้ยงหลานๆและค่าแพมเพิส ของผู้ป่วยติดเตียง ก็ไม่พอ ซึ่งตนต้องหารายได้เพียงคนเดียว เป็นภาระที่หนักอึ้งมากบางวันไม่ได้ออกไปตัดปาล์มหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวเพราะต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียงและดูแลหลานๆคนเดียวทำให้ครอบครัวตนได้รับความยากลำบากมาก หลานๆทั้ง4คนก็ไม่มีรถไปโรงเรียนต้องเดินเท้าไปโรงเรียนเองวันหนึ่งละ2กม.ทีเดียว แต่ทำยังไงได้ตนอยากให้หลานๆได้เรียนหนังสือก็ต้องยอมให้หลานไปโรงเรียนด้วยการเดินเท้าไปโรงเรียนถึงวันละ2กม.รถจักรยานยนต์ที่มีอยู่ก็เสียไม่มีเงินซ่อม

จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือค่าแพมเพิส ค่าน้ำยาทำความสะอาด ค่าผงซักฟอก โทร 098-714-8414 ชื่อนางจุรีวรรณ สมรักษ์ นางจุรีวรรณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด

เรียบเรียง สยามนิวส์