แม้จะยังไม่มีการยืนยันความสัมพันธ์ออกมาว่า “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BlackPink” กับ “เฟรเดริก อาร์โนลต์” เป็นความสัมพันธ์เกินเพื่อนร่วมงานหรือไม่ แต่ดูจากการดูแลเอาใจใส่ที่ฝ่ายชายมีต่อไอดอลสาวชาวไทย ก็ดูเหมือนว่าจะทำเอาแฟนๆจิกหมอนไปตามๆกัน

นับตั้งแต่ที่ ลิซ่า เดินทางถึงกรุงปารีส ฝรั่งเศส เพื่อร่วมแสดงสุดพิเศษบนเวที Crazy Horse ก็มีข่าวลือว่า เฟรเดริก ได้ส่งทีมบอดี้การ์ดของ LVMH มาดูแล ลิซ่า และเหมือนจะนั่งอยู่ในรถตู้ที่มารับ ลิซ่า ที่สนามบินด้วย

นอกจากนั้นในโชว์รอบแรกเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เฟรเดริก ก็ขนครอบครัวมาดูโชว์ของ ลิซ่า โดยมีทั้งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอย่าง เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ผู้เป็นพ่อ รวมถึง เฮเลน เมอร์ซิเออร์ ผู้เป็นแม่ และ ฌอง อาร์โนลต์ น้องชาย

และในวันปิดโชว์ เฟรเดริก ก็ยังคงมาให้กำลังใจ ลิซ่า ด้วยเช่นกัน พร้อมกับอยู่ด้วยกันตลอดในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ฉลองปิดโชว์สุดพิเศษของ ลิซ่า

ล่าสุด มีรายงานว่าทั้งคู่ได้ควงกันออกเดตที่ร้านอาหารในฝรั่งเศส ซึ่งงานนี้ เฟรเดริก ยังได้พบปะพูดคุยกับพิธีกรดัง วู้ดดี้ มิลินทจินดา ซึ่งแฟนคลับที่อยู่ในร้านอาหารได้เผยคลิปที่ ลิซ่า นั่งข้างๆ เฟรเดริก และมีโมเมนต์ใกล้ชิดกันด้วย

นอกจากนั้นจากคลิปที่แชร์ในโซเชียลมีเดีย ดูเหมือนทั้งคู่ยังได้ขึ้นรถคันเดียวกันกลับที่พักด้วย อย่างไรก็ตามแม้การต่อสัญญาของ ลิซ่า กับค่ายเดิมอย่าง YG Entertainment จะยังไม่มีความคืบหน้ารายงานออกมา แต่มีข่าวลือหนาหูที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่เวลานี้ว่า ลิซ่า กำลังเดินตามรอยแม่ค้าคนดัง รีฮันนา ที่วางไมค์ไปออกแบรนด์ของตนเองภายใต้ชื่อ Fenty กับ LVMH จนขึ้นแท่นเศรษฐินีไปแล้ว ซึ่ง ลิซ่า จะร่วมมือกับ LVMH บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ครอบครัว อาร์โนลต์ เป็นเจ้าของ ในการออกไลน์แฟชันของตนเองเช่นกัน

และยังคงตกเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับ 4 สาวสมาชิกวง BLACKPINK โดยเฉพาะ ลิซ่า BLACKPINK ที่ล่าสุดได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการร่วมขึ้นโชว์คาบาเรต์สุดเซ็กซี่กับ Crazy Horse Paris คณะคาบาเรต์ชื่อดังของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กระทั่งถูกคอมเนต์วิจารณ์ตั้งคำถามในหลายประเด็นจากเหล่าแฟนคลับและชาวเน็ต หนึ่งในคำถามน่าสนใจคือ การนำ ลิซ่า BLACKPINK ไปเปรียบเทียบกับ เจนนี่ BLACKPINK อย่างดุเดือด

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจนนี่ BLACKPINK กลายเป็นข่าวไปทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวการแสดงระดับโลกของเธอในซีรี่ส์ HBO เรื่อง 'The Idol' โดยซีรี่ส์เรื่องนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ครั้งสำคัญของเจนนี่ BLACKPINK ก็ว่าได้ เนื่องจากซีรี่ส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากที่เย้ายวนใจและท่าเต้นที่ทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกประหลาดใจกับความกล้าของเจนนี่ ซึ่งเธอถ่ายทอดบทบาทสุดเซ็กซี่ออกมาได้อย่างมั่นใจ กระทั่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “กล้าหาญเกินควร” ที่โหมกระพือเข้ามาพร้อมกับเรื่องฉาวอื่นๆ ในการถ่ายทำ จนส่งผลให้เรตติ้งตกฮวบ รั้งท้าย กลายเป็นซีรี่ส์ที่มียอดเรตติ้งเลวร้ายที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ HBO Max

ประเด็นเรื่องความเย้ายวนปนฉาวนิดๆ ถูกดึงกลับมาวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง หลังจากเกิดแฮชแท็ก #LisaxCrazyHorseParis กับการตัดสินใจที่กล้าหาญของ ลิซ่า BLACKPINK ในการร่วมแสดงที่คาบาเรต์ชื่อดังในกรุงปารีส จนกลายเป็นกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระนั้นก็ไม่วาย เกิดประเด็นการเปรียบเทียบในหมู่ชาวเน็ตเกี่ยวกับระดับความกล้าหาญในเรื่องของชุดที่สวมใส่ ระหว่างชุดของเจนนี่ BLACKPINK ในซีรี่ส์ The Idol และลิซ่า BLACKPINK ในการแสดงคาบาเรต์โชว์

ซึ่งชาวเน็ตเกาหลีจำนวนมากมุ่งความสนใจไปที่การแต่งกายของเจนนี่ BLACKPINK ที่โป๊และกล้าหาญมากกว่าชุดของลิซ่า BLACKPINK ในการแสดง Crazy Horse Paris รวมไปถึงประเด็นความไม่เหมาะสมอื่นๆ

จากหลายความคิดเห็นระบุว่า “ชุดของเจนนี่ยังเปิดเผยมากกว่าชุดของลิซ่าอีก”

"ถ้าพวกเขาต้องการแต่งตัวแบบนั้น พวกเขาควรจะเป็นไอดอลในอเมริกา อย่ามาเกาหลี"

"สิ่งที่ลิซ่าสวมใส่ก็เหมือนกับเครื่องแต่งกายที่พวกเขาสวมใส่เวลาแสดงคอนเสิร์ต ฉันก็เลยไม่คิดว่ามันแย่ขนาดนั้น"

"ฉันคิดว่าภาพลักษณ์ของเจนนี่มั่นคงแล้วตอนนี้" "

"ฉันไม่เคยได้ยินเรื่อง Crazy Horse Paris มาก่อน เลยค้นหาใน YouTube ว่ามันคืออะไร และฉันสงสัยจริงๆ ว่านั่นเป็นศิลปะหรือเปล่า มันดูเหมือนเป็นการแสดงโชว์เปลื้องผ้าสำหรับฉัน"

"นี่ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า BLACKPINK ยังคงเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รับความนิยมมากที่สุด"

หรือแม้แต่ "จากมุมมองของผมในฐานะคนเกาหลี มันทำให้ผมขมวดคิ้ว แต่จากมุมมองของแฟน ๆ ต่างชาติ ดูเหมือนว่ายังมีศิลปินต่างชาติมากมายที่แต่งตัวยั่วยวนมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีความรู้สึกอะไรต่อพวกเธอมากนัก"

ดูเหมือนว่าการตัดสินใจเข้าร่วมการแสดงกับคณะคาบาเรต์ชื่อดังของ ลิซ่า BLACKPINK จะสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์แตกออกเป็นสองขั้ว ซึ่งน่าสนใจว่าอาจเป็นการพลิกภาพจำครั้งสำคัญของเธอก็เป็นได้