สว.สมชาย เปิดหลักฐาน ชี้ช่องยื่นยุบก้าวไกล

สว.สมชาย เปิดหลักฐาน ชี้ช่องยื่นยุบก้าวไกล

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีพรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ออกจากสมาชิกพรรค เพื่อต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นนิติกรรมอำพราง และเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องว่า ฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 42 ประกอบมาตรา 92(3) ที่นำไปสู่การยื่นยุบพรรคได้ และเป็นการกระทำที่ได้ ไม่คุ้มเสีย ซึ่งการเมืองใหม่ต้องมีจริยธรรม นายสมชาย ระบุว่า การขับนายปดิพัทธ์ ออกจากพรรคก้าวไกล เพราะต้องการรักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯ ไว้ คงเป็นเรื่องถกเถียงถึงความถูกต้องกันต่อไปอีก แต่มีประเด็นสำคัญที่พรรคก้าวไกลอาจหลงลืมหรือไม่

เพราะคำสั่งแต่งตั้งคนในพรรคก้าวไกล เป็นข้าราชการการเมืองและคณะกรรมการต่างๆ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่มีผู้นำไปร้องต่อ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อตรวจดูรายชื่อเบื้องต้นแล้ว หลายคนยังเป็นผู้บริหาร กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรค หากนับจากวันที่นายปดิพัทธ์ ถูกขับเมื่อ 28 ก.ย. จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปลดออก

นายสมชาย ยังโพสต์คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการฝ่ายการเมือง ลงนามโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เมื่อ 21 ส.ค. แต่งตั้ง ข้าราชการฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล 3 คน ทำงานในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งขึ้นตรงกับนายปดิพัทธ์ ได้แก่ พล.ต.ต.สุพิศาล ภัพดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือน เดือนละ 47,250 บาท และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 10,000 บาท นายพงษ์สรณัฐ ทองลี เลขานุกการรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือนๆละ 44,310 บาท และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 4,900 บาท และนายปกรณ์ อารีกุล สมาชิกพรรคก้าวไกล อดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือนๆละ 39,710 บาท

และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 3,780 บาท และคำสั่งของประธานสภาฯ ตั้งกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรถนะสูง ที่ปรากฎชื่อ นายไกลก้อง ไวทยการ เป็นที่ปรึกษา, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษาประธานและที่ปรึกษารองประธาน และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรคก้าวไกล เป็นกรรมการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรรถนะสูง พบว่ามีนายปดิพัทธ์ เป็นประธาน ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการประชุมและพิจารณาโครงการศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ