แท็กซี่ วอนอย่าร้องเรียนเวลาเรียกแล้วไม่ไป หลังถูกปรับอื้อ งานนี้เล่นเอาชาวเน็ตถกสนั่น

แท็กซี่ วอนอย่าร้องเรียนเวลาเรียกแล้วไม่ไป หลังถูกปรับอื้อ งานนี้เล่นเอาชาวเน็ตถกสนั่น

กลายเป็นประเด็นที่ถุกพูดถึงกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียง หลังมีโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก รวมพลคนขับแท็กซี่(แห่งประเทศไทย) หลังจากที่ถูกร้องเรียนจากผู้โดยสารว่า ไม่รับผู้โดยสาร และถูกแจ้งทำให้โดนเสียค่าปรับจากกรมขนส่งทางบกหลายใบมาก

โดยโชเฟอร์แท็กซี่รายได้โพสต์ข้อความระบุว่า กราบเรียนท่านผู้โดยสารที่เคารพ การที่ท่านโทรร้องเรียนว่าคนขับไม่รับหรือไม่ไปส่งจุดหมายที่ท่านต้องการไป คนขับทุก ๆ คนต่างก็มีเหตุผลส่วนตัวที่คนขับแต่ละคนไม่ไป เช่นรถติดมากมาย หรือไปเส้นทางก็ไม่มีผู้โดยสาร โดยสารกลับ

พวกท่านทั้งหลายรู้มั้ยว่า ต้นทุนของคนขับแท็กซี่ กับอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน มันไม่สอดคล้องกัน เพราะค่าเช่าหรือค่างวด และเชื้อเพลิง มันสูง ตกเฉลี่ย วันละ 1000-1200 บาท ซึ่งต้องใช้เวลาในการขับไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง ถึงจะได้ต้นทุน ถ้าบางวันฝนตกหนัก รถก็ติดกว่าปกติ และผู้โดยสารก็น้อยลง ถ้าเรียกแล้วคนขับ คันนี้ไม่ไป ก็แค่เรียกรถจากแอปหรือเรียกคันใหม่ แค่นั้นเอง (บ้างครั้งรถติดมากผู้โดยทิ้งคนขับกลางทาง หรือไม่จ่ายค่าโดยสาร) คนขับไปร้องเรียกกับใครได้ครับ

ผมเข้าใจว่าผมอาจจะทำผิด พรบ.จราจร แต่ค่าปรับใบละ 1000 หรือ 500 หรือ 400 ก็ตาม มันทำให้คนขับต้องดิ้นรนไปขอยืมคนอื่นเพื่อมาจ่าย เงินมันหายากมากมาย ขอความเห็นใจและเมตตาในอาชีพนี้ด้วย (งดดราม่านะครับ พี่ ๆ) แค่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง

อย่างไร หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวโซเชียลเข้ามาคอมเมนต์แตกต่างกันมากมายหลายความคิดเห็น ทั้งมองว่า ถ้าทำแล้วมันไม่เหมาะกับเจ้าตัวมีปัญหาก็ขอให้เปลี่ยนอาชีพซะ ขณะที่บางคนมองว่า ก็เพราะแท็กซี่คิดแบบนี้ไง ผู้โดยสารถึงเรียกรถผ่านแอพพลิเคชันต่าง ๆ แทน แถมยังมีอีกหลายคนเลยที่มองว่าการที่คนขับแท็กซี่พูดแบบนี้ เหมือนเอาแต่ได้ ไม่ได้นึกถึงผู้โดยสาร

ในขณะที่โชเฟอร์ขับแท็กซี่คนอื่น ๆ ได้เข้ามาให้กำลังใจผู้โพสต์ พร้อมระบุว่า เป็นแท็กซี่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปในทุก ๆ ที่ เขาไม่ไป เขาก็ไม่ได้เอาเงินลูกค้ามา ขณะที่บางคนตัดพ้อในเชิงว่า ผู้โดยสารคงไม่เข้าใจอาชีพคนขับแท็กซี่หรอก พร้อมยกเหตุผลต่าง ๆ นานาว่าคนไม่ชอบแท็กซี่เยอะ ก็เลยคิดอคติ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ