บิ๊กต่อ ลงพื้นที่ รวบแก๊งเสพติดได้ของกลางมหาศาล รวมของกลาง 300 ล้าน

บิ๊กต่อ ลงพื้นที่ รวบแก๊งเสพติดได้ของกลางมหาศาล รวมของกลาง 300 ล้าน

ตำรวจตามแก๊งยาบ้าและยาเสพติดนรายใหญ่ระดับชาติ แอบซุกเซฟของกลางในทาวเฮ้าท์ ในจังหวัดนครปฐม โดยแกะรอยพบแห่งซุกยาก่อนเปิดปฏิบัติการชาร์จ เหมือนในหนังสุดท้ายรวบทั้งแก๊งได้ 4 คนเป็นชาย 2 คนหญิง 2 คน บิ๊กต่อ ลงพื้นที่หลังทราบมติแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.คนใหม่ แถลงพบยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดอีกมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นสายจากต่างประเทศมาซุกเซฟไว้ที่นครปฐม หลังจากติดตามพฤติกรรมมาแล้ว 2 ปี

วันนี้ 27 กันยายน 66 เวลา 23.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. เดินทางแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลัง กก.สายตรวจ บก.สปพ. ตรวจยึดยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม แฮปปี้วอร์เตอร์ และไฟว์ไฟว์ ได้ที่ทาวน์เฮ้าส์เลขที่ 20/15 ถนนลำพยา บอสโก 2 ม.5 ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม โดยเป็นการจับกุมขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.12 น. เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าท์ 2 ชั้น ตรงข้ามโรงแรมม่านรูด ซึ่งมีเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาหลายคนกำลังเตรียมจะขนยาบ้ามาพักในพื้นที่ ซึ่งเมื่อปฎิบัติติการได้เริ่มขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนและจู่โจมพร้อมอาวุธครบมือและเครื่องกันกระสุน กระทั่งพบนถรถยนต์เก๋งของต้องสงสัยซึ่งมีผู้ต้องหาภายในจากนั้นได้มีคนในบ้านวิ่งหนีและพยายามปีนฝ้าเพดานเพื่อหลบหนีแต่ไปไม่พ้นสามารถจับกุมได้ 4 ราย เป็นชาย 2 รายและหญิง 2 ราย ก่อนจะปิดกั้นสถานที่ห้ามไม่ให้บันทึกภาพและกันพื้นที่เพื่อตรวจสอบของกลางจำนวนมหาศาล

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. เผยว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนของท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการให้มีการเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด และทางเราได้มีการติดตามขบวนการนี้มาแล้วถึง 2 ปี ซึ่งสืบเนื่องจากมีการจับกุมอาวุธปืนและทำการซิงค์ข้อมูลกับ ป.ป.ส. ตำรวจ 191 บช.ปส.และตำรวจภูธรภาค 7 จนได้ของกลางวันนี้รวมมูลค่าประมาณ 300 กว่าล้านบาท

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตอนนี้จะเห็นได้ว่ายาเสพติดนั้นมีราคาถูกลงมาเหลือเม็ดละ 10 บาทซึ่งเราได้ทำการสกัดกั้นตามแนวชายแดนแถวแม่อายอย่างหนาแน่น แต่ในประเทศเพื่อนบ้านชนกลุ่มน้อยยังมีการสู้รบกันอยู่จึงจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้ออาวุธซึ่งเมื่อเราสกัดกั้นอย่างหนาแน่นทางเหนือ ยาเสพติดก็ได้แพร่ทะลักเข้ามาจากทางเชียงแสนเข้าสู่ภาคอีสานจะเห็นว่ามีการใช้ชุดคุ้มกันในการส่งยาเสพติดเมื่อเดือนก่อนก็มีการยิงรถตำรวจทางหลวงซึ่งท่านยนายกก็จี้เรื่องนี้เราก็ติดตามจนมาจับกุมทั้ง 4 คนได้แต่มีข้อมูลที่ยังเปิดเผยได้ และไม่ใช่งานที่เหมือนเป็นการฉลองตำแหน่ง ผู้บาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ซี่งจริงๆเราตามมา 2 ปีแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่ายาเสพติดสายนี้เป็นสานที่พบในประเทศไทยซึ่งเซฟที่มารวมกันคือที่จังหวัดนครปฐม แต่เป็นเครือข่ายของต่างประเทศและเดิมเราได้ตามจับปืนคนทั้ง 4 มาทราบว่าเป็นเอเยนต์ในการค้าส่งรายใหญ่และเราตามข้อมูลจาก สาย 191 มาที่จังหวัดนครปฐมและมาชนกับสายที่ ปช.ปส.ได้ทำการแชร์ข้อมูลร่วมกันโดยจะมีการขยายผลเพื่อดูเส้นทางทางการเงินและเครือข่ายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนทั้ง 4 ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ชาวบ้านสังเกตุเห็นว่าจะเก็บตัวเงียบแต่จะมีรถเข้ามานานๆครั้ง ประมาณ 3 คัน ซึ่งมีทั้งรถ 7 ที่นั่งขนาดเล็กและรถแต่งซิ่ง โดยจะถอยเข้าบ้านไป 1 คันและจะมี 1 คันไปจอดรอที่ถัดไปจากหน้าบ้านประมาณ 20 เมตร เมื่อคันแรกถอยเข้าและออกไปจะมีอีกคันถอยตามเข้าไปและรีบออกไป ซึ่งจุดที่มีการจอดรถที่ใช้ขนยา จะมีการซ่อนกุญแจไว้ที่ซุ้มล้อ หากใครมารับรถก็จะไปล้วงกุญแจและขับออกไปได้เลย โดยมีพฤติกรรมแปลกๆตั้งแต่ย้ายเข้ามาประมาณ4 เดือนและมีรถตำรวจมาวนเวียนบ่อยครั้งก่อนจะมีการบุกชาร์จเหมือนในหนังในวันนี้

ปนิทัศน์ มามีสุข ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ