
แม่ใจสลาย รับอัฐิลูกสาว หลังไปทำงานญี่ปุ่นแค่ 2 วัน บอกคาใจการเสียชีวิต ไม่ชอบมาพากล
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2566 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มอบหมายให้ นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ พานางสาวสมพร ศิริโสภณ อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ ไปรับอัฐิลูกสาว วัย 23 ปี ซึ่งเสียชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น หลังเดินทางไปทำงาน ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
ซี่งอัฐิลูกสาว ถูกส่งมาจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มอบให้กับ กรมการกงสุล ประเทศไทย โดยทันทีที่แม่ผู้เสียชีวิต เห็นกล่องที่บรรจุ อัฐิลูกสาว เธอก็หลั่งน้ำตาออกมาทันที เอาแต่จ้องมองกล่องอยู่นาน มันเป็นอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ลูกสาวของเธอที่ตั้งใจไปทำงานต่างประเทศ จะกลายเป็นเถ้ากระดูก กลับบ้านมาหาแม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 10 ก.ย. 66 นางสาวสมพร ศิริโสภณ อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ เข้ามาร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ลูกสาวเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 66 จากนั้น 2 วัน พบเป็นศพอยู่ในซอกตึก โดยทางตำรวจญี่ปุ่นตรวจสอบ พบว่า เป็นการปลิดชีพตัวเอง สาเหตุตกจากที่สูง ชั้น 8 โดยเจ้าหน้าที่แจ้งเพิ่มเติมเป็นเอกสารอีกว่า กล้องวงจรปิดจับภาพลูกสาวเดินลากกระเป๋าเข้าอาคารที่พัก ก่อนที่ต่อมาจะมีผู้ที่พักอยู่ชั้น 8 พบกระเป๋าถูกวางทิ้งไว้หน้าห้องแต่ไม่พบเจ้าของจึงนำกระเป๋าส่งสถานีตำรวจ แต่ผู้เป็นแม่ไม่เชื่อแน่นอน เพราะว่าไม่มีเหตุจูงใจใด จะทำให้ลูกของเธอก่อเหตุแบบนี้
ผู้เป็นแม่จึงขอให้มูลนิธิปวีณา ช่วยตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต และช่วยนำอัฐิลูกสาวกลับไทย เพราะแม่ฐานะยากจน ไม่มีเงิน นั่นจำทำให้ นางปวีณา ได้ประสาน นายรุธ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ขอให้ช่วยดำเนินการเรื่องนำอัฐิกลับมาไทย พร้อมกับพาไปพบกัล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อมอบหลักฐานเป็นโทรศัพท์ผู้เสียชีวิต ให้บิ๊กโจ๊กช่วยตรวจสอบเรื่องคดีนี้ต่อไป