จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์เรื่องราวของป้าท่านหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะคุณป้าท่านนี้ ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องเดินเท้ากว่า 30 กิโลเมตรจากที่ทำงานกลับบ้านทุกวัน กว่าจะถึงบ้านก็ประมาณตี 2-3 และต้องตื่นมาตี 5 นั่งรถตู้มาทำงานสระบุรี เธอมีชื่อว่าคุณป้าวรรณาค่ะ แถมนอกจากนี้ที่บ้านป้ายังมีคนแก่ 1 คน มีผู้ป่วยติดเตียง 1 คน มีเด็ก 2 คน ซึ่งป่วยพิการทางสมอง 1 คน ตามที่ได้นำเสนอไปเมื่อช่วงเช้า (22 ก.ย. 2566) ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นายเสกสันติ สินทรจันทร์ ปลัด อบต.ศาลาลอย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า หญิงที่ปรากฏในภาพ คือ นางวรรณา เขจรลาภ อายุ 55 ปี ไม่ได้ทำงานหรือเป็นพนักงานของ อบต.ศาลาลอย แต่ว่าทางอบต.เคยจ้างเหมาบริการ เป็นแม่บ้านทำความสะอาดศูนย์พักคอยช่วงโควิด เป็นระยะสั้น ๆ เท่านั้น และมีบ้านพักใกล้กับอบต. ห่างประมาณ 150 เมตรเท่านั้น 

โดยนางวรรณาอยู่กันเป็นครอบครัว มีแม่อายุมากแล้ว 1 คน รวมถึงมีลูกชาย 3 คน อยู่ที่กรุงเทพมหานคร และ ลูกสาว 1 คนที่ป่วยติดเตียง ทั้งนี้ ทางอบต.ได้ให้ความช่วยเหลือมาตลอด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือตามขอบเขตอำนาจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปยังบ้านของ นางวรรณา ซึ่งอยู่ด้านหลังอบต.เพียง 150 เมตร แต่ก็ไม่พบกับนางวรรณา พบเพียงแต่แม่ของ นางวรรณา ส่วนลูกสาวของนางวรรณาที่ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยาได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเนื่องจากหมอนัดรักษาตัว ส่วนนางวรรณาทราบว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าที่ จ.สระบุรี

ด้าน นางจรัสศรี อัศวเดชาชาญยุทธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 กล่าวว่า เห็นว่านางวรรณาทำงานอยู่ที่ จ.สระบุรี โดยช่วงเช้าจะเดินทางออกจากบ้านไปขึ้นรถตู้ เพื่อไปทำงาน แต่เวลาช่วงเลิกงานกลางดึกไม่รู้ว่านางวรรณาเดินทางกลับบ้านอย่างไร ไม่เคยทราบเลยว่า นางวรรณาเดินเท้าจากที่ทำงานมาบ้านถึง 30 กิโลเมตร อันที่จริงก็มีรถรับจ้าง หรือปั่นจักรยานไปทำงานก็ได้

ส่วนลูกชายทั้ง 3 คนของนางวรรณาก็เคยบอกกับผู้ใหญ่บ้านว่า เคยบอกแม่ให้เลิกขอความช่วยเหลือ และให้เลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้ว เนื่องจากทางบ้านไม่ได้ขัดสน ขนาดที่ต้องมารับบริจาคตามที่เป็นข่าวออกไป