ย้อนเหตุการณ์ ส่องสัญญาณ ลิซ่า BLACKPINK อาจไม่ต่อสัญญา YG

ย้อนเหตุการณ์ ส่องสัญญาณ ลิซ่า BLACKPINK อาจไม่ต่อสัญญา YG

ประเด็นสุดฮอตในวงการ K-POP ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นประเด็นการ “ต่อสัญญา” ของ “BLACKPINK” เกิร์ลกรุ๊ปที่ทรงอิทธิพลระดับโลก กับต้นสังกัด “YG Entertainment” ที่ถูกทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งสัญญาของทั้ง 4 สาวสมาชิก อย่าง จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และ ลิซ่า หรือ ลลิษา มโนบาล ไอดอลสายเลือดไทย ได้หมดลงแล้วเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเดบิวท์ครบ 7 ปีพอดี แต่ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ทำเอาเหล่าบลิ๊งค์ (ชื่อแฟนคลับ) ต้องว้าวุ่น กับประเด็นที่ว่าสมาชิกบางคนอาจไม่ต่อสัญญา โดยเฉพาะ ลิซ่า ที่มีเสียงลือหนาหูเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ช่วงต้นเดือน ม.ค. 2023 ได้เกิดแฮชแทคสุดเดือดในโลกออนไลน์ อย่าง #LisaLeaveYG โดยสื่อต่างประเทศได้รายงานว่ามีค่ายต่างประเทศมากมาย อาทิ ประเทศจีน ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อให้ ลิซ่า ทิ้ง YG หลังหมดสัญญา โดยมีข่าวลือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงถึง 81 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.7 พันล้านบาท) เรียกว่าเป็นประเด็นที่สั่นสะเทือนวงการเพลงไปทั่วโลกเลยทีเดียว

ย่างเข้าเดือน ก.ค. สื่อดัง มุนฮวา อิลโบ Munhwa Ilbo ได้ออกมากระพือเรื่องสัญญาของ ลิซ่า กับ YG อีกครั้ง โดยระบุว่ามีเอเจนซี่ฝั่งจีนติดต่อขอร่วมงานกับ ลิซ่า ในช่วงเดือน พ.ย. ผ่านทางค่ายตามปกติ แต่กลับได้รับคำตอบว่าตารางงานหลังเดือน ส.ค. ยังคงตอบไม่ได้ เนื่องจากความไม่แน่นอนในการต่อสัญญาระหว่าง ลิซ่า กับ YG ขณะที่ มุนฮวา อิลโบ Munhwa Ilbo สอบถามไปยังค่าย YG ก็ได้คำตอบว่า ที่ให้คำตอบไม่ได้เป็นเพราะ ลิซ่า ยังยุ่งกับการเดินสายทัวร์และตารางงานส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญาหรือไม่ อย่างไรก็ตามตัวแทน YG ก็ไม่ได้บอกถึงความคืบหน้าการต่อสัญญา

ทั้งนี้สัญญาของ “BLACKPINK” นั้นได้สิ้นสุดลง เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทว่าก่อนหมดสัญญา ทาง YG ได้หารือกับสาว ๆ แต่ก็ไม่สามารถหาข้อตกลงได้ กระทั่งสัญญาของพวกเธอหมดลงจนถึงวันนี้ ทาง YG ก็ยังไม่มีคำตอบ หรือประกาศเกี่ยวกับสัญญาที่ชัดเจนออกมา ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ว่า ลิซ่า นั้นถูกค่ายจากทั่วโลกยื่นข้อเสนอจีบเธอมาร่วมสังกัดมากมาย รวมถึงค่ายเพลงจากในไทยด้วย

ขณะที่เรื่องสัญญายังคงคลุมเครือ จู่ ๆ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับโลก ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป “Universal Music Group” ก็โพสต์ภาพเดี่ยวของ ลิซ่า ลงในแอคเคาทน์ไอจี ซึ่งเป็นภาพที่ศิลปินสาวโพสต์ระหว่างพักผ่อนทริปทะเล ประเทศกรีซ พร้อมแคปชั่นสั้นๆ “Lalisa” งานนี้ทำเอาแฟนคลับทั่วโลกต่างเข้าไปคอมเมนต์สนั่น อีกทั้งคาดเดาว่านี่เป็นการส่งสัญญาณว่า ลิซ่า ไม่ต่อสัญญากับ YG แล้วหันมาตกลงปลงใจกับ Universal หรือไม่ แต่ในอีกมุมก็มีแฟน ๆ มองว่า ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป “Universal Music Group” โพสต์ภาพเธอก็ไม่เห็นแปลก เพราะ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป “Universal Music Group” นั้นก็เป็นหนึ่งในบริษัทร่วมลงทุนกับ YG นั่นเอง

ทั้ง 4 สาวไม่ได้บินไปร่วมงานประกาศรางวัลทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก อย่าง “MTV Video Music Awards 2023” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ทั้งที่ “BLACKPINK” สามารถคว้าได้ถึง 2 รางวัลใหญ่ อย่าง “Group of The Year” ซึ่งพวกเธอยังได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกในรอบ 24 ปี ที่คว้ารางวัลนี้มาครองได้สำเร็จ ต่อจากวง “TLC” ที่เคยรับรางวัลเมื่อปี 1999 และ เบสโครีโอกราฟฟี่ การออกแบบท่าเต้นที่ดีที่สุด “Best Choreography” จากเพลง “Pink Venom” งานนี้เลยมีหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า หรือนี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สาว ๆ อาจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด แต่มองอีกมุมก็อาจเป็นช่วงที่ให้สมาชิกพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนจะขึ้นโชว์ใหญ่ แบล็กพิงค์เวิลด์ทัวร์บอนพิงค์ไฟนอล “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] FINALE IN SEOUL” ในวันที่ 16 – 17 ก.ย. ที่ผ่านมา

ข่าวลือเรื่องไม่ต่อสัญญาของ ลิซ่า ยังคงมีต่อเนื่อง กระทั่งไม่นานมานี้สื่อเกาลีใต้ “Star News” มีรายงานว่า ลิซ่า ได้ปฏิเสธข้อเสนอเรื่องการต่อสัญญาจาก YG ถึง 2 ครั้ง คาดว่ามูลค่าของสัญญานั้นสูงถึง 5 หมื่นล้านวอน (ราว 1.3 พันล้านบาท) ซึ่งแรงกระเพื่อมดังกล่าวส่งผลให้ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา หุ้นของ YG Entertainment ดิ่งลงอย่างหนักเกือบ 9% ลงไปอยู่ที่ 73,800 วอน ณ เวลา 11.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดในหนึ่งวัน นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย 2022 ซึ่งล่าสุดต้นสังกัด YG ก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ ลิซ่า ระบุสั้น ๆ ว่า “เรายังอยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อต่อสัญญากับลิซ่า ส่วนข่าวลือที่แพร่กระจายอยู่ตอนนี้ไม่ได้รับการยืนยัน”

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจากทั้ง 4 สาว ที่ส่งออกมาอีกมากมาย โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ มานี้ ทั้ง 4 สาวกล้าที่จะแสดงถึงตัวตนและความต้องการของตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่ จีซู ที่ยอมรับว่ากำลังเดทกับ นักแสดงหนุ่ม อัน โบฮยอน , เจนนี่ ที่เคยให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมา และไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนว่า เธอนั้นชอบการร้องมากกว่าแรป และไม่เคยได้สำรวจสิ่งที่ชอบนั้น เพราะถูกวางตัวให้เป็นแรปเปอร์ตั้งแต่เป็นเด็กฝึก เธอถึงขั้นออกมาปากว่ามีช่วงนึงเธอเกลียดการแร็ปและหมดไฟในตำแหน่งแรปเปอร์ของวง

ขณะที่ ลิซ่า ล่าสุดเธอก็เพิ่งอวดหุ่นสุดแซ่บในชุดบิกินี่ พร้อมกับข่าวเดทกับ เฟรเดอริก อาร์โนลด์ มหาเศรษฐี ทายาทธุรกิจเครือ LVMH ซึ่ง YG ทำเพียงแค่บอกว่าไม่สามารถยืนยันข่าวดังกล่าวได้ รวมทั้งล่าสุดที่ ลิซ่า ได้ประกาศจะร่วมแสดงโชว์ระบำเปลื้องผ้า กับคาบาเร่ต์สไตล์ปารีเซียงชื่อดัง “Crazy Horse Paris” (Le Crazy Horse Saloon หรือ Le Crazy Horse de Paris) ทั้งนี้ ลิซ่า นั้นเป็นศิลปิน K-POP คนแรกที่ขึ้นแสดงโชว์สุดไอคอนนิค “Crazy Horse” โดยจะเปิดการแสดงรอบพิเศษสุดของเธอจำนวน 5 รอบ ในวันที่ 28-30 ก.ย. นี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่า ลิซ่า นั้นจะขึ้นโชว์ในรูปแบบไหน เป็นต้น

สำหรับปัจจัยที่อาจทำให้ ลิซ่า ไม่ต่อสัญญานั้นมีหลายเหตุผลซัพพอร์ท โดยเฉพาะเรื่องของการโดนเอาเปรียบ และเคยถูกเลือกปฏิบัติมากมาย อีกทั้งช่วงแรกที่เดบิวต์ ยังมีแฟนคลับเกาหลีบางส่วนเรียกร้องให้เธอออกจากวง เพราะเธอเป็นคนไทย มีแอนตี้แฟนมากมาย ว่าร้ายและคอยแซะ ลิซ่า รวมทั้งตอนเดินสายโปรโมท เธอยังเคยถูกแฟนๆ บางส่วนหมางเมิน นักข่าวเดินชน

แม้วันนี้ ลิซ่า จะโด่งดังและได้รับความนิยมไปทั่วโลก มียอดฟอลโลว์ไอจีทะลุ 97.7 ล้าน และทรงอิทธิพลอย่างมากทั้งวงการเพลงและแฟชั่นแล้ว แต่รายได้ของเธอดูเหมือนจะถูกกดน้อยกว่าเพื่อนร่วมวง ด้วยกฎหมายค่าตัวของคนต่างชาติที่มีเรตต่างจากคนเกาหลี ซึ่งบลิ๊งค์รวมทั้งแฟน ๆ ที่เป็นเมนของ ลิซ่า ต่างรับรู้สิ่งเหล่านี้อยู่เต็มอก ขณะที่ผลงานโซโล่ของเธอ อย่าง “LALISA” ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ถึงขั้นคว้ารางวัลใหญ่ “Best K-Pop Award” บนเวที “2022 MTV European Music Awards” ปีก่อน

อีกทั้งสร้างประวัติศาสตร์มากมาย แต่ ลิซ่า กลับมีโอกาสโปรโมทเพลงเดี่ยวของเธอเพียงแค่ 2 สัปดาห์ และยังไม่มีการเปิดเผยยอดอัลบั้มโซโล่ รวมถึงไม่มีการผลิตเพิ่ม นอกจากนี้ ลิซ่า ยังเคยถูกอดีตผู้จัดการโกงเงินกว่า 1 พันล้านวอน (ราว 26 ล้านบาท) ซึ่งหลายคนมองว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่ไม่เป็นธรรมกับ ลิซ่า อาจทำให้เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญาได้!

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ