จากกรณีนายหน่องมือปืนลูกน้องกำนันนก หรือนายประวีณ จันทร์คล้าย อายุ 35 ปี อดีตกำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม รัวยิงสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว หรือสารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. คางานเลี้ยงที่บ้านอย่างอุกอาจต่อหน้าเพื่อนตำรวจหลายนาย ต่อมาพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกำนันนกและตำรวจลอตแรกไปแล้ว 6 นาย หลังพบหลักฐานช่วยเหลือนายประวีณหลบหนีและจับกุมคนงานในบ้านที่นำปืนและเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปทิ้ง ก่อนเปิดปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการฮั้วประมูลก่อสร้าง หลังพบบริษัทรับเหมาของกำนันนกได้งานโครงการรัฐแบบน่าสงสัยกว่า 1,500 โครงการ ล่าสุดชุดสืบสวนเตรียมสอบตำรวจอีก 20 นายและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติม

กรณีให้การขัดแย้งข้อเท็จจริงที่ปรากฏในวงจรปิดเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดให้การเท็จ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 16 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ห้องประชุมเสสะเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ใช้เป็นที่ตั้งในการนำตัวพยานต่างๆ ในคดี กำนันนก มาดำเนินการสอบสวน ซึ่งในขณะนี้ พบว่าเจ้าหน้าที่ได้เชิญ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท บช.น. หนึ่งในตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุงานปาร์ตี้มรณะที่บ้านกำนันนก มาดำเนินการสอบสวนต่อ หลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสามารถกู้ภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้

โดยสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า พ.ต.อ.กฤษฎาพร มีสีหน้าเคร่งเครียด และคอยมองนักข่าวตลอดเวลา ระหว่างการถูกพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน

นอกจากนี้ยังได้มีการนำโทรศัพท์มือถือ มายื่นให้พนักงานสอบสวนดูข้อมูลภายในโทรศัพท์ และพยายามอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ซึ่งคาดว่า พ.ต.อ.กฤษฎาพร อาจมีข้อมูลบางอย่างให้กับพนักงานสอบสวนดู และระหว่างที่สอบปากคำ ผกก.สน.พญาไท ก็ยังหันมามองช่างภาพที่กำลังบันทึกภาพอยู่ภายนอกห้อง โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงเสร็จสิ้นการสอบสวน

แต่ผู้สื่อข่าวยังคงรอปักหลักทำข่าวอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าห้องเสสะเวชทุกประตู ทำให้ พ.ต.อ.กฤษฎาพร ไม่กล้าออกมา โดยยังคงนั่งอยู่และมีความเครียดอย่างเห็นได้ชัด.