จตุพร เผยช่องโหว่ เงินดิทัล 1 หมื่น โกงกันหนักยิ่งกว่าจำนำข้าว

จตุพร เผยช่องโหว่ เงินดิทัล 1 หมื่น โกงกันหนักยิ่งกว่าจำนำข้าว

วันที่ 14 กันยายน 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ถอดเทปเฟซบุ๊กไลฟ์ รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน มากกว่าที่เห็น โดยมีช่วงตอนหนึ่งกล่าวถึงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบอะไรจากรัฐบาลถึงที่มาของเงิน เมื่อประกาศไม่กู้ ไม่เอาเงินกองทุนสำรอง จึงสงสัยและไม่ต้องการให้ไปใช้แนวทางขอเครดิตของกลุ่มทุนในจำนวน 5.6 แสนล้านมาเป็นที่มาของเงิน

สิ่งสำคัญการใช้เครดิตแบบนี้จะเกิดช่องว่าง เพราะรัศมีการใช้จ่าย 4 กม. ซึ่งเป็นเงื่อนไขในนโยบายนี้ ยกตัวอย่างเช่น หากกลับบ้านหน้าเทศกาล เมื่อร่วมกันใช้เงินดิจิทัลในคราวเดีย วรายละหมื่น สิบคนก็เป็นแสน หรือร้อยคนก็เป็นล้านบาท แล้วร้านค้าจะมีสินค้ามารับมือได้อย่างไร แต่ที่น่ากลัวคือ จะเกิดการขายเงินดิจิทัล โดยผ่านการสำแดงเท็จในเรื่องการจ่ายซื้อสินค้า

การขายเงินดิจิทัลจะโกงกันหนักยิ่งว่าจำนำข้าว แล้วกลุ่มทุนก็นำเงินไปเข้าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพื่อขยายทุน จึงสงสัยและไม่อยากให้เกิดไปถึงขั้นเสนอขอเครดิต 5.6 แสนล้านบาทจากกลุ่มทุน เพราะจะนำพาให้ประเทศถูกทุนผูกขาดตลาดการผลิตและการซื้อขายสินค้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า กังวลกับโฆษกรัฐบาล นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ ที่กล่าวถึงรัฏฐาธิปัตย์ว่า ปกติรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะไม่ใช้คำพูดเช่นนี้กัน แต่คณะยึดอำนาจสามารถใช้ได้ เพื่อมุ่งยึดอำนาจทั้ง 3 ทางคือ บริหาร นิติบัญญัติ และยุติธรรม มาไว้กับคนเดียวได้ แต่ถ้าคนที่มาจากการเลือกตั้งจะใช้อำนาจนี้แล้ว สะท้อนถึงการป่วยทางใจอย่างยิ่ง

สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ แสดงถึงแนวโน้มพรรคก้าวไกลจะถูกปล่อยจากคดีที่ถูกกล่าวหากันตามลำดับ นอกจากนี้ช่วงใกล้สิ้นกันยายน รัฐมนตรีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตรวจสอบนั้น จะมีการสำแดงกันอย่างไรบ้าง ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉเพื่อชาติเอาไว้ จะเกิดปฏิกิริยาจาก สว. สส.และนักกฎหมายที่จะเปิดปฏิบัติการเมื่อใด สิ่งเหล่านี้จึงต้องติดตาม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ