สส.หมิว สิริลภัส โดนแอบถ่ายหยิบอาหารจากรัฐสภากลับบ้าน เผยคำใบ้คนที่แอบถ่าย ทัวร์ลงสนั่นจนต้องปิด Facebook จบดราม่าสรุปเอากลับบ้านได้หรือไม่

สส.หมิว สิริลภัส โดนแอบถ่ายหยิบอาหารจากรัฐสภากลับบ้าน เผยคำใบ้คนที่แอบถ่าย ทัวร์ลงสนั่นจนต้องปิด Facebook จบดราม่าสรุปเอากลับบ้านได้หรือไม่

สส.หมิว สิริลภัส โดนแอบถ่ายหยิบอาหารจากรัฐสภากลับบ้าน เผยคำใบ้คนที่แอบถ่าย ทัวร์ลงสนั่นจนต้องปิด Facebook จบดราม่าสรุปเอากลับบ้านได้หรือไม่ ก่อนจะมาเป็นสส.เคยถูกจดหมายเชิญออกจากช่องก่อนหมดสัญญา

คลิป

กลายเป็นดราม่าขึ้นมากันซะอย่างนั้้น เมื่อคืนวันที่ 7 กันยายน ได้เกิด #พุ่งติดเทรนด์กันไม่หยุด กับ #หมิวสิริลภัส เนื่องจากได้มีเหตุการณ์ที่ สส.ท่านหนึ่ง ได้แอบถ่ายภาพของ สส.หมิว สิริลภัส เขตบางกะปิ จากพรรคก้าวไกล

เป็นภาพขณะที่ สส.หมิว กำลังหยิบอาหารจากห้องอาหารติดมือกลับบ้านไปด้วย ได้นำภาพดังกล่าวลงในโซเชียลพร้อมระบุข้อความในภาพตัวใหญ่ชัดเจนเลยว่า พบเห็นอดีตดาราสาวลักลอบนำอาหารสภากลับบ้าน แม้ในภาพจะไม่ได้เห็นหน้าชัดเจนว่าดาราสาวคนดังกล่าวที่ลักลอบนำอาหารกลับบ้านไปคือใคร เพราะได้มีการใช้อิโมจิรูปส้มปิดหน้าเอาไว้ แต่หลายๆคนก็พุ่งเป้าไปที่สาวหมิวกันเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยคำบอกใบ้ที่เป็นสัญลักษณ์รูปส้ม และข้อความที่บอกว่า อดีตดาราสาว

เนื่องจาก สส.หมิว ก่อนจะมาเป็น สส.แบบทุกวันนี้ เจ้าตัวเคยเป็นนักแสดงและพิธีกรของช่องมากสีมาก่อน อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ต้องโดนจดหมายเชิญให้ออกจากช่องและหมดสัญญาก่อนกำหนด

เนื่องจากได้มีผู้หวังดีนอกจากจะฟ้องรายการไม่พอยังส่งจดหมายไปทางต้นสังกัดอีกด้วย ทางช่องจึงได้ส่งจดหมายเพื่อแจ้งว่า ยกเลิกสัญญาการแสดง จากเดิมกำหนดหมดสัญญา 31 ธันวาคม 2565 แต่หมดสัญญาก่อนล่วงหน้าคือ 16 กรกฎาคม 2564 ทำเอาช่วงนั้นเป็นกระแสดราม่าอยู่ไม่น้อย จนเกิด #ทีมหมิว และแบนช่องดังกล่าวกันจำนวนมาก

หลังจากนั้นเธอไม่ได้ห่างหายไปไหน ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2565 หมิว สิริลภัส ได้เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 14 และผลการเลือกตั้ง 2566 สามารถคว้าชัยชนะในพื้นที่บางกะปิและวังทองหลาง กรุงเทพฯ เลือกเธอไปทำหน้าที่ สส.ในสภาสมัยแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทำงานสนามการเมืองระดับประเทศแบบเต็มตัวมาก่อน เพิ่งหันมาลงพื้นที่จริงจังยังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่ด้วยคะแนนท่วมท้น 39,829 เสียง

กระทั่งล่าสุดก็ได้เจอกับประเด็นดราม่าขึ้นอีกครั้ง จนทำเอา #หมิวสิริลภัส ขึ้นเทรนด์ดังชั่วข้ามคืน เนื่องจากได้มี สส.รายหนึ่ง ถ่ายรูปเธอขณะที่กำลังนำอาหารของรัฐสภากลับบ้าน ได้แอบถ่ายรูปที่แม้จะปิดหน้าเอาไว้ด้วยอิโมจิรูปส้ม แต่ข้อความระบุชัดเจนว่า พบเห็นอดีตดาราสาวลักลอบนำอาหารสภากลับบ้าน โซเชียลจึงพุ่งเป้าไปที่เธอกันเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเธอก็ได้สวนกลับว่า ด้วยการนำรูปดังกล่าวไปลงในแอคเคาน์ X ระบุว่า

น่าแปลกใจนะคะ เป็นสส.มา 2 สมัย ก็ไม่ทราบว่าได้เข้ามาห้องอาหารตอน "เลิกประชุมสภา" กี่ครั้ง ตั้งแต่มีการประชุมสภามา หมิวกล้ายืนยันว่าหมิวอยู่จนจบประชุมสภา "ทุกครั้ง" พร้อมเพื่อนสส.ก้าวไกลอีกหลายคน หลังจบประชุมที่ห้องอาหารก็จะมีอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้ ตามจำนวน สส. คำถามคือ แล้วทำไมตอนเลิกประชุม อาหารถึงได้เหลือมากขนาดที่เข้าต้องห่อใส่ถุงให้เอากลับบ้าน?? ถ้าจำนวน สส. ที่เหลืออยู่จนปิดประชุมมีมากพอ ก็ไม่มีอาหารที่เหลือแบบนี้หรอกมั้งคะ อาหารที่เหลือเหล่านี้ ถ้าไม่ห่อกลับ เจ้าหน้าที่ก็ต้องแจกจ่ายอยู่แล้วและวันนี้หมิวก็ใช้สิทธิ์ตามที่มี ไม่ได้นั่งทานที่ห้องอาหารแต่ห่อกลับมากินที่บ้าน การใช้คำว่า "ลักลอบ" นี่ไม่รู้ว่า อ่อนภาษาไทยหรือจงใจใส่ร้ายกันแน่ เข้ามาทำงานที่มีเกียรติแล้ว ก็ช่วย ...ภูมิใจ... ที่ประชาชนคน...ไทย.... เขาเลือกมาของตัวเองหน่อยค่ะ มีหน้าที่ทำงานการเมืองก็ทำไป จะอภิปราย จะขับเคลื่อนประเด็นอะไรก็ว่าไป มัวแต่มานั่งจับผิดคนอื่น เอาเขาไปแขวน อย่าคิดว่าเจ้าตัวเค้าจะไม่เห็นนะคะ มีสื่ออยู่ก็หัดใช้ให้มันเป็นถ้าใช้สื่อไม่เป็นเดินเข้ามาถามได้ ยินดีให้คำแนะนำถ้าอยากได้ยอดติดตามที่มากกว่าที่มีอยู่ 4000 กว่าคน ถ้าเจอกันครั้งหน้าไม่มีเพื่อนสส.พรรคเดียวกันนั่งกินข้าวด้วยเพราะอยู่ไม่ถึงเลิกประชุม ก็มานั่งทานด้วยกันได้นะคะ จะได้มาคุยกันหน่อยว่าจุดประสงค์ที่ถ่ายรูป+แคปชั่นแบบนี้ จะสื่อว่าอะไร พร้อมจะรับฟังค่ะ

ต่อมา สส.ดังกล่าวไมได้ออกมาโต้ตอบอะไรแต่ได้ปิดเฟสบุ๊กไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ก็ได้ออกมาแจงด้วยว่า สส.นำอาหารเหลือกลับบ้านไม่ผิด ถ้าปิดประชุมก่อนแล้วอาหารเหลือเยอะ ปกติจะเอาไปบริจาคตามหน่วยต่างๆแต่บริจาคเท่าไหร่ก็เหลือเสียเพราะกินไม่ทัน ไม่มีที่เก็บ จึงคิดว่าไม่มีกฏหมายห้ามรับประทานในสภาหรือเอากลับบ้าน อาหารถ้าเหลือก็ให้ใส่ถุงและให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกเอากลับบ้าน และถ้าสมาชิกมีญาติมีทีมงานอยู่ในห้องก็หยิบเอาไปได้เพื่อดูแลกัน เป็นแนวทางที่ดีที่สุดแล้ว

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ