เศรษฐา พูดแล้ว หลังดราม่าโยนปากกา

เศรษฐา พูดแล้ว หลังดราม่าโยนปากกา

วันนี้ (4 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลวานนี้ (3 ก.ย.) ว่า ยอมรับว่าได้เข้าไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูสถานที่ ดูห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องประชุมครม. รวมถึงห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน ส่วนกระแสข่าวจะปรับปรุงสถานที่ บริเวณห้องปฏิบัติงาน 1 หรือรังนกกระจอก 1 ที่อยู่ติดกับตึกนารีสโมสร ซึ่งเป็นห้องทำงานหลังแรกของสื่อมวลชนประจำทำเนียบผ่านรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย นายเศรษฐา ระบุว่า

ยืนยันว่าจะไม่รื้อแต่ต้องการปรับปรุงเพื่อทำให้ดีขึ้น และสอบถามว่าสื่อมวลชนอยู่ตรงไหนกันบ้าง ซึ่งทราบว่ามีอยู่ 2-3 ที่ เพื่อให้ฝ่ายบริหารเข้าถึงสื่อมวลชนได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะมีการปรับรูปแบบบ้างในบางอย่าง แต่ยืนยันว่าความเป็นอยู่จะต้องดีขึ้น อย่างไรก็ตามคงไม่ได้มีการปรับปรุงเยอะ เพราะเมื่อวานตนมีเวลาในการดูแค่ 1.30 ชั่วโมง ต้องให้เข้าไปทำงานจริง ๆ ก่อน เพราะลักษณะการทำงานของนายกรัฐมนตรี แต่ละคนไม่เหมือนกัน

ส่วนจะมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนใหม่หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า “ผมไม่เคยใช้คำว่าจัดระเบียบ แต่ใช้คำว่าไปดูความเป็นอยู่ของพี่น้องสื่อมวลชน และยืนยันว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องดีขึ้น ไม่ใช่ไปจัดระเบียบใครทำแบบนี้เลย ซึ่งตนไม่เคยใช้คำแบบนี้เลยไม่ทราบว่าใครเป็นคนใช้ ไม่มีแน่นอน ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนสบายใจได้ เพราะดูแล้วทั้ง 3 ที่ ยังไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ผมจะปรับปรุงให้สบายขึ้น รวมทั้งการทำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร เพราะการจะเข้าถึงประชาชนได้ส่วนหนึ่งต้องอาศัยสื่อมวลชน

ทั้งนี้อยากให้นายรัฐมนตรี รัฐมนตรี และภาคส่วนต่าง ๆ มีพื้นที่ในการลงมาพูดคุยกับสื่อมวลชนได้” เมื่อถามว่า ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะมีการเดินสายพบใครอีกหรือไม่เพื่อขอคำแนะนำประกอบนโยบาย นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้มีการเขียนนโยบายเสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนส่งพิมพ์ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้ก็มีการพูดคุยหารือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามถึงโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่านายกฯ เป็นคนขี้โมโหหลังมีคลิปขว้างปากการะหว่างการหารือกับกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ระบุว่า ขอโทษ สำหรับภาพที่ออกไป อาจจะบ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ไม่พอใจ

แต่เนื่องจากจักรยานยนต์รับจ้างมีหลายประเด็นที่เสนอแนะ ตนเกรง ว่าจะจดรายละเอียดไม่ทัน เพราะมีคำถามหลายประเด็นที่จะต้องตอบคำถามเพราะเป็นเรื่องของการทำงาน เมื่อหมึกปากกาหมดก็ขอใหม่ ตนไม่ได้ขว้างแค่วางลง ตนเข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ การทำอะไรต่อไปนี้จะต้องมีความระมัดระวัง เพราะภาพที่ออกไปไม่ได้เป็นการสะท้อนความรู้สึกของเรา แต่คนที่ดูอยู่อาจจะเข้าใจผิดได้ “ก็กราบขอโทษ และจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น และต่อไปนี้ตนต้องเตรียมปากกาไว้หลาย ๆ ด้าม” เมื่อถามถึงกรณีการนัดรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีทั้ง 16 คนของพรรคเพื่อไทยในเที่ยงของวันนี้ มีประเด็นอะไรหารือเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า

ไม่มีประเด็นอะไรพิเศษเพียงแต่เป็นการนัดกินข้าวกัน เพื่อให้รู้จักและเข้าใจถึงสไตล์การทำงานของแต่ละคน เพราะตนก็มาจากภาคธุรกิจ และมาทำงานในภาคการเมือง ซึ่งอาจจะยังมีความไม่เข้าใจ จึงต้องมีการพูดคุยกันให้ดี ส่วนเรื่องงบประมาณปี 2567 ที่พิจารณาไม่ทันนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า

ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด เพราะการจัดทำงบประมาณ ไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องล่าช้าออกไปเท่านั้น เมื่อเราอาสาเข้ามาบริหารจัดการประเทศแล้วเมื่อมีขีดจำกัดก็ต้องทำไปให้ได้ และยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และยืนยันว่าเงิน 10,000 บาทจะจ่ายในงวดเดียว ไม่มีการแบ่งจ่ายเป็นงวดงวด นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังระบุว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ขั้นตอนในการทำงานและมีการพบปะกับหลายภาคส่วน ตอนเที่ยงจะมีการรับประทานข้าวกับรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนโยบาย เพราะหลายท่านก็เจอกันแค่ผิวเผิน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ