
เตือนเอลนีโญยังแรงหวั่นแล้งยาววอนทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดน้ำ
ชลประทานศรีสะเกษแจ้งเตือนเอลนีโญยังแรงหวั่นแล้งยาววอนทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดน้ำ ขณะเดียวกันให้เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อาจเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ เปิดเผยว่าสถานการณ์เอลนีโญ ยังแรง หวั่นจะแล้งยาว จึงขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดน้ำ ทั้งนี้จังหวัดศรีสะเกษ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่ระดับเก็บกักทั้ง 17 แห่ง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 208.34 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเก็บกักได้ 122.04 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 58.58 % ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 78.57 ล้าน ลบ.ม. หรือ 37.72%
ขณะที่เขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่เขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา เก็บกักน้ำได้รวม 139.44 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเก็บกักได้ 86.44 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 54.76% ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วจำนวน 41.43 ล้าน ลบ.ม. หรือ 27.64 % จึงจำเป็นต้องมีมาตรการลดความเสี่ยงในเรื่องของภัยแล้ง โดยทุกภาคส่วนต้องช่วยกันประหยัดน้ำ เนื่องจากสถานการณ์เอลนีโญ อาจมีผลกระทบให้แล้งยาวได้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า สถานการณ์เอลนีโญ ยังคงมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี 2566 และ อาจยาวจนถึงปีหน้า จึงสั่งการให้หัวหน้าฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ภายใต้ 5 มาตรการในการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝนของกรมชลประทาน ได้แก่
1. น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคต้องเพียงพอตลอดทั้งปี
2.บริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.ส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชโดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก
4.กักเก็บน้ำในเขื่อนไว้ให้ได้มากที่สุด
5.บริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันและบรรเทาอุทกภัย เพื่อบรรเทาปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากเกษตรกรหากอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำน้อยกว่า 80% ขอให้งดเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง เนื่องจากมีปริมาณน้ำต้นทุนไม่เพียงพอ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ ยังขอให้ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังอาจเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปริมาณน้ำฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าจังหวัดศรีสะเกษมีค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนรอบ 30 ปีจำนวน 1445.8 มิลลิเมตร โดยในช่วงเดือนกันยายนจะมีฝนตกปริมาณมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 278.2 มิลลิเมตร และ ในช่วงปี 2564 ถึง 2565 พบว่าเดือนกันยายนมีปริมาณฝนตก 447.4 และ 510.2 มิลลิเมตรตามลำดับ จึงเป็นไปได้ว่าในเดือนกันยายนนี้ อาจมีร่องมรสุมและพายุดีเปรสชันพัดผ่านจังหวัดศรีสะเกษเหมือน 2 ปีที่ผ่านมาก็ได้
ข่าวโดย ฉัตรชัย พรหมมาศ ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดศรีสะเกษ