ซึ่งจากข้อมูลของเพจ ข่าวสารบันเทิงจีน ได้เผยแพร่ว่า ย้อนกลับไปปี 2019 จ้างลู่ซือ ดาราหน้าใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จักนัก เธอได้มีโอกาสเข้าร่วมรายการเรียวลิตี้ดโชว์ที่ผลิตโดย โปรดิวเซอร์มือทองแห่งยุค อย่าง หยูเจิ้ง ในรายการ Real Actor เป็นรายการแนวเข้าค่ายเพื่อฝึกการแสดง

ยังไงก็ตาม จ้าวลู่ซือ ยังได้รับงานแสดงซ้อนกันอีกงานหนึ่ง เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะรับซ้อนมันเป็นอุบัติเหตุที่คิวงานมาชนกันเอง และเธออยากไปทำงานนี้มากกว่า แต่ถ้าถอนตัวจากรายการวาไรตี้นี้ เธอก็ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับตามสัญญา ด้วยความที่เธอไม่รู้จะทำยังไง ช่วงกลางๆรายการเธอได้ลุกขึ้นมาร้องไห้กลางดึก สตาฟในรายการตกใจเข้ามาดู เธอก็ค่อยๆอธิบายสาเหตุที่ร้องไห้ให้สตาฟฟัง

ในที่สุดสตาฟเข้ามาถอดไมค์และส่งเธอกลับบ้านไปวันนั้นทันทีค่ะ ซึ่งภายหลังเราถึงมารู้ว่าซีรีสที่เธออยากไปแสดงคือเรื่อง ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม The Romance of Tiger and Rose ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ส่งให้เธอได้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในบรรดาปุบผานักแสดงหญิงรุ่น 95 และโด่ดังมาจนถึงวันนี้นั่นเอง

กันที่ยาวพอสมควร หยูเจิ้ง พยายามพูดโน้มน้าวให้ ลู่ซือ อยู่เล่นรายการวาไรตี้ต่อ โดยบอกกับเธอว่า ถึงเธอจะมีความโดดเด่น แต่เธอก็มีข้อเสียอยู่ การแสดงของเธอนั้นเหมือนๆกันไปหมดทุกเรื่อง แทบไม่มีข้อแตกต่างเลย ซีรีส์ใหม่ของเธอก็ยังไม่แน่ว่าจะดัง ไม่สู้เธอฝึกการแสดงในรายการนี้ไปก่อนแล้วค่อยไปเล่นซีรีส์ต่อ สุดท้าย จ้าวลู่ซือ ตัดสินใจเลือก ไปถ่ายซีรีส์ องค์หญิงสาม

นั่นทำให้ หยู่เจิ้ง ไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้โพสต์ข้อความเดือดลงบนโวเชียลว่า ชาเขียว ซึ่งเป็นคำแสลงที่ใช้พูดแดกดันผู้หญิงว่าเป็น หญิงเพศยา หยู่เจิ้ง ไม่ได้พูดเอ่ยชื่อถึงใครตรงๆ แต่เขาโพสต์รูปใบชาเขียว กำลังถูกคั่วในกะทะ กับโพสต์จอกน้ำชาเขียว 1 จอก พร้อมข้อความว่า กินดราม่า ซึ่งชาวก็เดากันว่าหมายถึง จ้าวลู่ซือ และคนที่แอนตี้ ลู่ซือ ก็ผสมโรงเรียกเธอว่าเป็น จ้าวชาเขียว ตามไปด้วย

โดยก่อนหน้านี้ หยูเจิ้ง ก็ยังเคยออกมาโพสต์ดราม่าเป็นกระแสร้อนแรง เมื่อเขาออกมาบอกว่ามีนักแสดงหญิง EQ ต่ำคนหนึ่งเนรคุณเขา เขาเป็นคนให้โอกาสเธอแสดงซีรีส์เรื่องแรก สอนเธอแนะนำด้านการแสดง แต่เธอกลับลบเขาออกจากกลุ่มแชทใน wechat และบล็อกชื่อเขาด้วย

ทุกคนดูออกว่า หยูเจิ้ง หมายถึง จ้าวลู่ซือ ทำให้จ้าวลู่ซือถูกกระแสโจมตีอยู่พักใหญ่ทีเดียวว่า เนรคุณ จนผู้จัดการของเธอต้องออกโรงมาเคลียร์ใจกับ หยูเจิ้ง บอกว่าที่ลบรายชื่อเขาออกนั้นไม่ได้มีเจตนา เพียงแต่ว่าลู่ซือต้องเปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ wechat ใหม่ และลบรายเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วออก ด้วยจำนวนรายชื่อที่เยอะ เลยพลาดลบรายชื่อ หยูเจิ้ง ออกไป

สุดท้าย หยูเจิ้ง ยอมรับคำขอโทษจากผู้จัดการของ ลู่ซือ เขายังบอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับน้องลู่ซือ แต่อย่างใด แต่ชาวเน็ตคาดเดากันไปเอง เพราะเขาก็ไม่เคยเอ่ยชื่อของลู่ซือเลย ดราม่าเรื่องนี้จบลงไปอย่างเงียบๆ และประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นก็ไม่อาจจะตอบได้ว่าใครถูกผิด ทางด้านรายการเองก็เสียงหายจากการแซนเซิลงานของนางเอกสาว ในขณะที่ลูซือเอง หากติดสินใจที่จะอยู่ในรายการต่ะ เธอคงเสียโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแบบนี้ไปเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสารบันเทิงจีน

เรียบเรียง siamnews