ต้องมาตราฐานเดียวกับพิธา ทนายอั๋น ยื่น กกต. ชงศาล รธน.ยุบไทยภักดี เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

ต้องมาตราฐานเดียวกับพิธา ทนายอั๋น ยื่น กกต. ชงศาล รธน.ยุบไทยภักดี เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

วานนี้ (28 ส.ค. 2566) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ คนเสื้อแดง ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ขอให้ตรวจสอบและพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคพรรคไทยภักดี แถลงถึงจุดยืนของพรรคอยากเห็นประเทศเป็นระบอบการปกครองแบบใหม่ ที่อาจจะไปขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92

โดย ทนายอั๋น กล่าวว่า ตนเห็นการแถลงข่าวของ นพ.วรงค์ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยภักดี ในทำนองที่ว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็นระบอบใหม่ ไม่เอาแล้วกว่า 91 ปีที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญฉบับแรก คณะราษฎรจนถึงปัจจุบันพูดว่ามันคือตราบาป

ซึ่งตนเองในฐานะนักประชาธิปไตยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เห็นว่า ถ้อยคำที่แถลงเป็นจุดยืนของพรรคไทยภักดีนั้น ไปขัดกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง มาตรา 92 ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ อาจจะเป็นปฏิปักษ์กับการปกครอง และขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 2 ที่ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

หากเอาบรรทัดฐานที่ทำกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคไทยภักดี พร้อมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการผู้บริหารพรรค ทำให้เห็นเลยว่า กกต.ไม่ได้เลือกปฏิบัติ และทำให้เห็นว่า กกต. ยังเป็นคนกลาง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ที่เรามายื่น ก็อยากเห็นประชาธิปไตยที่มั่งคง ก้าวหน้าเท่าเทียมอารยนานาประเทศ กกต.ควรแสดงให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้เลือกข้าง ไม่ใช่ว่าฝ่ายประชาธิปไตยมายื่นเรื่องอะไรก็ตีตกไปหมด แล้วไปรับเรื่องแต่ฝ่ายที่เข้าข้างเผด็จการ มายื่นเรื่องวันนี้หวังว่าประธาน กกต.จะสั่งการโดยด่วนและนำเรื่องนี้ไปยื่นกับศาลรัฐธรรมนูญภายในสัปดาห์หน้า

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ