สาวถูกเชิญลงเครื่อง โพสต์โวย แอร์มีไว้ทำไม คาดเป็นรายเดียวกับเรื่องราวของ เบ๊น อาปาเช่

สาวถูกเชิญลงเครื่อง โพสต์โวย แอร์มีไว้ทำไม คาดเป็นรายเดียวกับเรื่องราวของ เบ๊น อาปาเช่

จากกรณีของเบนซ์ อาปาเช่ ที่ได้มีการแชร์เรื่องราวของกลุ่มผู้โดยสารคนไทยหัวร้อนโวยแอร์ที่เวียดนาม เพราะไม่ยอมยกกระเป๋าให้ จนต้องถูกเจ้าหน้าเชิญลงจากเครื่องบิน ต่อมาได้มีผู้ใช้ Twitter ได้ออกมาแชร์โพสต์ของหญิงรายหนึ่ง ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า สายการบิน vj บริการได้แย่มาก กระเป๋าหนัก 7 โล ผู้หญิงตัวเล็ก น้ำหนัก 43 ยกไม่ไหว ขอให้ช่วยยกให้หน่อย แต่ดันบอกให้ยกเอง แล้วพูดต่อว่า ถ้ายกไม่ไหว ทำไมไม่โหลดละคะ? เพราะเป็นกฎ อยากรู้ว่ามี แอร์โฮสเตส ไว้ทำไม แค่เดินขายของ ขายข้าว อย่างเดียวเหรอ ไม่ต้องบริการอย่างอื่นเลยใช่มั้ย

ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารย์เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น แอร์ไม่มีหน้าที่ยกกระเป๋านะครับ ที่ทำ ๆ กันคือเขาช่วย, งงนะ ในฐานะลูกเรือเก่า การดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารคือเรื่องหลัก การอำนวยความสะดวกก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋าเราแค่ช่วยอำนวยความสะดวกครับ ไม่ใช่เป็นคนยกกระเป๋า, โดยปกติแล้วแอร์ สจ๊วตเค้าไม่ได้มีหน้าที่ช่วยยกกระเป๋า หน้าที่ของแอร์สจ๊วตคือการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ต่อมาสาวคนดังกล่าวได้คอมเมนต์อีกว่า ค่ะเดี๋ยวจะมาชี้แจงอีกทีค่ะ ที่มิ้วได้โพสต์ไปเพราะขอให้สจ๊วตช่วยยกกระเป๋าหน่อย แล้วสจ๊วตพูดมาว่าต้องยกเอง อันนี้เข้าใจค่ะ มิ้วรู้เรื่องกฎ แล้วกำลังจะยก แต่ก็ยกขึ้นแบบทุลักทุเล แล้วเพื่อนก็บ่นว่า ทำไมถึงไม่มีน้ำใจในการบริการเลย

แล้วสักพักก็มีแอร์ผู้หญิงอีกคนเดินมาพูดใสว่าหนักแล้วทำไมไม่โหลดละ (ใช้น้ำเสียงแย่มากจริง ๆ ค่ะ ซึ่งคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อาจจะเข้าใจว่า มิ้วไม่รู้เรื่องกฎการขึ้นเครื่องบินที่ต้องยกกระเป๋าเอง อันนี้มิ้วเข้าใจอยู่ค่ะ แต่ที่มิ้วได้โพสต์ไปเมื่อกี้ เพราะรู้สึกแย่กับน้ำเสียงของแอร์จริงๆ

ล่าสุด สาวคนดังกล่าวได้ลบโพสต์ออกไปแล้ว พร้อมปิดกั้นการมองเห็นโพสต์จากสาธารณะในเฟซบุ๊ก จนเหลือแค่เพียงภาพหน้าปกเท่านั้น คาดว่าน่าจะเป็นรายเดียวกับที่ เบ๊น อาปาเช่ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากอยู่ในเครื่องบินไฟลต์เดียวกัน ซึ่งสาวรายดังกล่าวและเพื่อนถูกเชิญลงจากเครื่องบิน

ขอบคุณข้อมูล Twitter @Red Skull

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ