ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถ่ายภาพติดคล้ายผีเปรตตามเรื่องราวในตำนานของเมืองไทย ซึ่งมีลักษณะตัวสูงกว่าต้นไม้ มีแสงไฟ 2 ดวงตาสีแดงก่ำ คล้ายดวงตา เมื่อนำไปให้เพื่อนบ้านดูบางรายก็ว่าเป็นผีเปรต ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็บอกว่าเป็นนกเค้าแมว จึงได้เดินทางไปยังจุดที่ถ่ายภาพดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดสนามบิน ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์

น.ส.อารียา อายุ 27 ปี ผู้ที่ถ่ายภาพดังกล่าว เปิดเผยว่า ตามปกติตนก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ในวันเกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาเกือบเที่ยงคืน ขณะที่ตนกำลังจะนอน แต่ลูกชายวัย 3 ขวบ ไม่ยอมหลับยอมนอน ตนจึงแกล้งพูดว่าถ้าไม่นอนผีเปรตจะมาเอาตัวไปนะ แต่แล้วจู่ ๆ ลูกชายก็พูดขึ้นมาว่าผีเปรตมาโน่นแล้ว ตนจึงลองหันไปดูทางหน้าต่างก็พบว่า มีดวงไฟสีแดง 2 ดวงขนาดใหญ่คล้ายดวงตาผีที่เห็นในหนัง และมีลักษณะโยกไปโยกมา จึงได้นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปและคลิปไว้

ส่วนตัวตนไม่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้ว แต่เห็นว่ามีลักษณะแปลกจึงถ่ายไว้ แต่พอตนหันมาดูลูกและหันกลับไป ดวงไฟดังกล่าวก็หายไปแล้ว ในช่วงเช้าตนจึงนำภาพออกมาดูอีกครั้ง แต่เนื่องจากภาพค่อนข้างมืด จึงได้เพิ่มแสงเพื่อให้มองชัดขึ้น ก็พบว่ามีลักษณะคล้ายกับผีเปรตในภาพยนตร์ จึงได้นำภาพดังกล่าวไปให้เพื่อนบ้านดู ซึ่งเพื่อนบ้านหลายรายก็ยืนยันว่าเป็นผีเปรตจริง ๆ

ขณะที่ นางละเอียด อายุ 77 ปี ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าภาพถ่ายดังกล่าวเป็นผีเปรตอย่างแน่นอน เพราะบริเวณพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นป่าช้าเก่า สมัยก่อนมีการฝังคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตนก็เคยเห็นผีเปรตกับตาตัวเอง

ส่วน พระรณ พระลูกวัดสนามบิน ได้เปิดเผยว่า ภาพที่เห็นจะเป็นอื่นไปไม่ได้ อีกทั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเวลาประมาณตีสองกว่า ๆ ตนยังได้เคยเห็นผีเปรตแต่เป็นลักษณะเงาลาง ๆ ตัวสูงกว่าต้นไม้ มีเสียงร้องคล้ายคนเป่านกหวีด ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่ใช่เงาต้นไม้อย่างแน่นอน

เรียบเรียง siamnews