คุมตัว ผู้ต้องหาฯ ลักพาตัวน้องเดชทำแผน ตร.เร่งสอบหาปม พบบัญชีมีการเคลื่อนไหวน่าสงสัย

คุมตัว ผู้ต้องหาฯ ลักพาตัวน้องเดชทำแผน ตร.เร่งสอบหาปม พบบัญชีมีการเคลื่อนไหวน่าสงสัย

ตำรวจคุมตัว นายนันทจักษ์ สาวประเภทสอง ทำแผนช่วงก่อเหตุที่โรงพยาบาลบางเลน ท่ามกลางความคับแค้นและสงสัยว่าทำไปเพื่ออะไร ขณะที่เจ้าตัวให้การวกวนในเหตุจูงใจ เพียงแต่สารภาพจากคลิบวงจรปิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบปากคำและหาหลักฐานเพิ่มเนื่องจากพบสมุดบัญชีหลายเล่มมีการเคลื่อนไหวครบ รวมถึงเตรียมรื้อมาเทียบกับคดีการหายตัวของน้องต่อด้วย

วันนี้ 13 สิงหาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน จ.นครปฐม สามารถจับกุมตัว นายนันทจักษ์ ศิลป์เสริฐ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 ม.2 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาลักพาตัว ด.ช.สิทธิเดช หรือน้องเดช อายุ 2 วัน ออกจากอกนางสาวยุภารัตน์ เทศนาม อายุ 26 ปี มารดา ที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลบางเลน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเนื่องจากผู้ต้องหาอาศัยอาศัยอยู่ตรงข้ามกับบ้านน้องต่อ ที่เป็นคดีดังเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

โดยเวลาประมาณ 15.40 น. ให้พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผกก.สภ.บางเลน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดจราจร ทำการปิดกั้นพื้นที่ด้านหน้าโรงพยาบาลบางเลน เพื่อนำตัวนายนันทจักษ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพซึ่งจำนนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิด โดยมีญาติของ นายพงศธรและนางสาวยุภารัตน์ พ่อแม่ของ น้องเดช ที่ไม่พอใจมารอดูการทำแผนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการเร่งรัดในการดำเนินการและควบคุมความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ ซึ่งนายนันทจักษ์ ได้เข้าทำแผนโดยขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าห้องฉุกเฉินเก่าก่อนจะเดินเข้าตามทางเดินและเลี้ยวขวาไปยังห้องพักฟื้น แต่ช่วงเลี้ยวซ้ายที่จะไปที่ห้องกลับเดินออกไปอีกทาง เนื่องจากมีช่องที่มองเห็นภายในห้องพักฟื้น จนกระทั่งแน่ใจและได้เดินกลับเข้าไปที่ห้องและอุ้มน้องเดชออกมาที่หน้าห้องและจับใส่เข้ากระเป๋าสีดำ ที่นำมาด้วยก่อนจะเดินหิ้วออกมาทางเดิมเพื่อมาขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากด้านหน้า ซึ่งน้องเดชไม่ได้ส่งเสียงร้องแต่อย่างใด

ซึ่งช่วงที่มีการทำแผนทางญาติและชาวบ้านที่มาร่วมมุงดูต่างเริ่มมีอารมมากขึ้นหลายคนพยายามตะโกนถามว่า ผู้ต้องหากระทำลงไปเพราะอะไร แต่นายนันทจักษ์ ยังอยู่ในอาการนิ่งสงบและทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ตรงกับที่สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบควบคุมตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ในชั้นการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำในประเด็นที่สงสัยอีกหลายเรื่องโดยเจ้าตัวได้บอกว่า ที่ต้องการเด็กไปเลี้ยงก็เพราะเป็นกลุ่มสาวประเภทสอง อยากจะหาเด็กไปเป็นลูกเนื่องจากตนเองไม่สามารถมีลูกได้ แต่เมื่อช่วงเช้ายังให้การว่าตนเองเป็นแม่เด็กและมารับกลับบ้าน ซึ่งยังให้การวกวนในข้อสรุปถึงแรงจูงใจ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสนใจคือ สมุดบัญชีของผู้ต้องหามีหลายเล่มและแต่ละเล่มก็มีเงินหมุนเวียนอยู่ครบ โดยจะสืบสวนวาที่มาที่ไปของเงินมาจากทางใดและได้มาอย่างไร อีกส่วนคือการที่จะนำคดีดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับคดีน้องต่อ ซึ่งลักษณะการหายตัวคล้ายกันมากซึ่ง นายนันทจักษ์ ก็แคยถูกสอบปากคำในช่วงที่น้องต่อกหายตัวไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ชัดเจนออกมา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการขยายผลอย่างละเอียด

ข่าวโดย ปนิทัศน์ มามีสุข ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ