ปูพรมค้นหา ลุงเลี้ยงควายหายตัวปริศนากลางป่าพันไร่ พร้อมเงินเกือบแสน พระอาจารย์-หมอดูทั้ง 2 แห่ง พูดตรงกัน

ปูพรมค้นหา ลุงเลี้ยงควายหายตัวปริศนากลางป่าพันไร่ พร้อมเงินเกือบแสน พระอาจารย์-หมอดูทั้ง 2 แห่ง พูดตรงกัน

จากกรณีมีเหตุ นายเฉวียน ดอกแก้ว อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 1 ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หายตัวปริศนา พร้อมกับเงินติดตัวประมาณ 70,000-80,000 บาท ภายในป่าห้วยสำราญ เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ในเขตบ้านหมากเขียบ ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเงินดังกล่าว เป็นเงินที่ นายเฉวียน ขายควาย จำนวน 1 ตัว ได้เงิน 40,000 บาท และได้ขายไม้ประดู่ ได้เงินอีกกว่า 30,000 บาท ไม่มีหนี้สินภาระใดๆ โดยนายเฉวียน จะพกเงินติดตัวตลอดเวลา ไม่ยอมนำฝากธนาคาร เพราะเคยถูกหลานชายคนหนึ่ง แอบนำเอทีเอ็ม ไปกดเงินที่ได้มาจากการขายควายได้เมื่อประมาณ ปี 2563 และมีเงินฝากในธนาคาร รวมประมาณ 400,000 บาท ออกมาจนเกลี้ยงบัญชี ตั้งแต่นั้นมา นายเฉวียน จึงไม่ยอมนำเงินฝากธนาคารอีกเลย

โดยการหายตัวไปในครั้งนี้มีชาวบ้านพบเห็น นายเฉวียน ครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 8 ส.ค. 2566 ขณะนั่งพักเหนื่อยอยู่กลางถนนชายป่า ในสภาพอิดโรย นั่งก้มหน้า ไม่พูดจากับใคร กระทั่งค่ำมืด ญาติไม่เห็นกลับเข้าบ้าน จึงได้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ หายไปทั้งคนทั้งควาย จึงเดินไปดูที่คอกควาย แต่ก็ไม่พบวี่แวว ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2566 ชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามค้นหาบริเวณจุดที่พบตัวล่าสุด ก็ยังไม่พบ พบเพียงควายของ นายเฉวียน หากินอยู่ในป่า จำนวน 5 ตัว ห่างจากจุดที่พบตัวล่าสุดเข้าไปในป่าประมาณ 500 เมตร จึงได้นำกลับเข้าคอก และได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ช่วยติดตามค้นหา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

โดยการหายตัวไปในครั้งนี้มีชาวบ้านพบเห็น นายเฉวียน ครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 8 ส.ค. 2566 ขณะนั่งพักเหนื่อยอยู่กลางถนนชายป่า ในสภาพอิดโรย นั่งก้มหน้า ไม่พูดจากับใคร กระทั่งค่ำมืด ญาติไม่เห็นกลับเข้าบ้าน จึงได้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ หายไปทั้งคนทั้งควาย จึงเดินไปดูที่คอกควาย แต่ก็ไม่พบวี่แวว ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2566 ชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามค้นหาบริเวณจุดที่พบตัวล่าสุด ก็ยังไม่พบ พบเพียงควายของ นายเฉวียน หากินอยู่ในป่า จำนวน 5 ตัว ห่างจากจุดที่พบตัวล่าสุดเข้าไปในป่าประมาณ 500 เมตร จึงได้นำกลับเข้าคอก และได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ช่วยติดตามค้นหา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 2566 นายศรายุธ สีละออง ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองศรีสะเกษ นำกำลำลัง อส. ร่วมกับ นายอดุล มณี กำนันตำบลหมากเขียบ ปลัด อบต.หมากเขียบ ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และชาวบ้าน รวมจำนวนกว่า 100 คน ออกลาดตระเวนแบบปูพรมค้น ตามเส้นทางเดินป่า และทางน้ำ อย่างเต็มที่ พร้อมกับใช้โดรนบินค้นหา และเตรียมประสานขอความร่วมมือสุนัขตำรวจ และสุนัขทหาร มาช่วยในการค้นหา โดยได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าในการค้นหา ที่บ้านของ นายอดุล มณี กำนันตำบลหมากเขียบ จนกว่าจะพบตัว

นางรัตนา นิยม อายุ 66 ปี น้องสะใภ้ของ นายเฉวียน กล่าวว่า สามีตนเป็นน้องชายของนายเสวียน ซึ่งได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนมีลูกกับสามีที่เสียชีวิตไปแล้วด้วยกัน 3 คน คนโต ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนคนที่สองเป็นชาย ไปมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด และคนที่สาม คือคนที่เคยขโมยเงินขายควาย จำนวน 30 ตัว เป็นเงิน จำนวนกว่า 300,000 บาท และได้นำเงินไปฝากธนาคารไว้ทั้งหมด โดยทำบัตรเอทีเอ็ม และให้ตนเก็บไว้ ซึ่งตนก็มีเงินฝากในบัญชีธนาคาร อีกกว่า 1 แสนบาท จึงได้นำบัตรเอทีเอ็ม มาเก็บไว้ด้วยกัน รวมเป็นเงินกว่า 400,000 บาท แล้วลูกชายคนเล็กของตน ก็ได้แอบขโมยกดเงินออกไปทั้งหมด และหลบหนีไปเมื่อ 3 ปีก่อน โดยไม่กลับมาบ้านอีกเลย และขาดการติดต่อกันแต่นั้นมาจนปัจจุบัน เพราะนายเฉวียน โกรธมาก และขู่หากกลับมาต้องเจอดีแน่ ไม่ปล่อยไว้

ครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับ นายเฉวียน คือก่อนหายตัวไป นายเฉวียน ได้บอกกับตนว่า เจ็บขา ตนจึงบอกกลับไปว่า เจ็บขาก็ไม่ต้องเอาควายออกไปเลี้ยงข้างนอก ให้กินฟางในคอก แต่นายเฉวียน ไม่ยอม และได้ปล่อยควายออกไปเล็มกินหญ้าริมลำห้วยตามปกติ และส่วนตัวก็ไม่รู้ว่า นายเฉวียน จะไปอยู่จุดไหน เพราะทุกๆวัน ก็จะอยู่แต่ละแวกลำห้วย หรือแถวชายป่าบริเวณนี้เป็นประจำในทุกๆวัน ตนก็ไม่รู้ว่าหายไปได้ยังไง ส่วนเรื่องเงินของ นายเฉวียน ตนก็ไม่เคยยุ่งแต่อย่างใด แต่มาผิดสังเกตก่อนที่ นายเฉวียน จะหายไป เมื่อ 4-5 วันก่อน นายเฉวียน ได้มาบอกกับตนว่า ว่ามีเงินได้จากการขายควาย 1 ตัว ประมาณ 40,000 บาท และได้จากการขายไม้ประดู่ อีกจำนวน กว่า 30,000 บาท รวมมีเงินติดตัวก่อนหน้าที่จะหายตัวไป ประมาณ 70,000-80,000 บาท ซึ่งตนก็เคยเตือนว่าทำไมต้องเอาเงินไว้ติดตัวเยอะขนาดนี้ กลัวเป็นอันตราย แต่นายเฉวียน ก็ไม่เชื่อและบอกว่าไม่กลัว

ด้าน น.ส.อรชร ไชยสนาม อายุ 33 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า หลังเกิดเหตุการณ์หายตัวไปของนายเฉวียน ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทุกคนต่างรู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างมาก และได้ช่วยกันติดตามค้นหาทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าหรือแม้แต่การพึ่งไสยศาสตร์ โดยตนได้ไปดูดวงกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง และได้ทักว่า ปีนี้ นายเฉวียน ดวงตก ชะตาขาด แต่ขณะนี้ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ผีป่าซ่อนตัวไว้ในป่า โดยสัมผัสได้ว่า นายเฉวียน มีอาการเหนื่อย และอ่อนแรงมาก แล้วให้รีบตามหาและจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ ชาวบ้านจึงทำตามที่พระอาจารย์ทัก แต่ก็ยังไม่เจอตัว เชื่อว่าอาจเป็นเพราะเมื่อวานนี้ (วันที่ 9 ส.ค. 2566) เป็นวันพระ เจ้าที่เจ้าทางอาจไม่เปิดทางให้

และในวันนี้ก็ได้ไปหาหมอดูอีกแห่ง บอกว่า นายเฉวียน ยังมีชีวิตอยู่ ได้นอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทรัพย์สินติดตัวก็ยังอยู่ครบ ซึ่งทั้งพระอาจารย์และหมอดูทั้ง 2 แห่ง พูดตรงกัน นายเฉวียน ยังมีชีวิตอยู่ และยังอยู่ในป่า เชื่อว่าวันนี้จะเจอตัว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงได้เร่งระดมกำลังพลค้นหาตลอดทั้งวันจนค่ำมืดก็ยังไม่พบวี่แววเบาะแสแต่อย่างใด

ทีมข่าว สยามนิวส์ จ.ศรีสะเกษ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ