วันที่ 1 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวดัง รายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม ฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาและยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง มีปริมาณฝนเฉลี่ยสะสม สูงเกือบ 100 มิลลิเมตร โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ธาตุพนม รวมถึง อ.นาแก มีปริมาณน้ำฝนสูงประมาณ 80 -90 มิลลิเมตร บวกกับเป็นพื้นที่ติดกับเทือกเขาภูพานน้อย และติดกับลำน้ำสาขาสำคัญของแม่น้ำโขง คือ ลำน้ำบัง ลำน้ำก่ำ ทำให้ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าทะลัก ล้นลำน้ำสาขา หนักสุดคือ พื้นที่ ต.ฝั่งแดง ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม รวมถึง พื้นที่ ต.พุ่มแก อ.นาแก บางส่วน ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าทะลัก ล้นลำห้วยกุดโดน เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร ที่พึ่งปักดำ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเกือบ 1,000 ไร่

หากยังมีปริมาณฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำไม่ลดอีกประมาณ 1 สัปดาห์ คาดว่าจะทำให้นาข้าวได้รับเสียหายเป็นพื้นที่กว้าง เนื่องจากน้ำจากลำน้ำสาขาสายหลัก เริ่มระบายลงน้ำโขงช้า อีกทั้งปริมาณน้ำโขงเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ ประมาณ 6.30 เมตร เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 30 – 40 เซนติเมตร เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่อง หากระดับน้ำโขงเพิ่มถึงจุดวิกฤติที่ประมาณ 12 เมตร ยิ่งจะส่งผลกระทบมากขึ้น เพราะลำน้ำสาขาไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ จึงต้องเฝ้าระวังในช่วงนี้

ทั้งนี้ ทาง จ.นครพนม ได้ประสานพื้นที่อำเภอชายแดน ติดกับน้ำโขง รวมถึงติดกับเทือกเขา มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง อ.ธาตุพนม และ อ.นาแก ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังต่อเนื่อง และวางแผนเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงการเกษตร ป้องกันความเสียหาย หากมีฝนตกหนักน้ำป่าทะลัก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ถือว่า มีปริมาณฝนตกหนักสูงสุดในรอบปี และเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกัน เป็นโอกาสทองของชาวบ้านบางส่วน ที่มีอาชีพหาปลาจับปลาขาย ต่างพากัน นำอุปกรณ์จับปลา ยกยอ หรือชาวอีสานเรียกว่าสะดุ้ง ออกมาจับปลานำไปขายสร้างรายได้เสริม และนำไปเป็นเมนูอาหารเลี้ยงครอบครัว ลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย