บุกรวบพระนักเทศน์ชื่อดัง ทั้งค้าทั้งเสพคากุฏิวัด กลางคืนออกเที่ยวเตร่ หลับนอนกับผู้หญิง

บุกรวบพระนักเทศน์ชื่อดัง ทั้งค้าทั้งเสพคากุฏิวัด กลางคืนออกเที่ยวเตร่ หลับนอนกับผู้หญิง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ก.ค.66 ร.ต.อ.พศวีย์ จันทอง รอง สวป.หัวหน้าชุด อส.ตร.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจจับกุมสองผัวเมียผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดรายย่อยได้ 2 คนพร้อมของกลางยาบ้า ยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง จากนั้นตำรวจชุดดังกล่าวสอบสวนขยายผลสองผัวเมียรับสารภาพว่า ซื้อยาเสพติดมาจากพระภิกษุ นักเทศน์ชื่อดัง สังกัดวัดแห่งหนึ่งย่านตลาดแขก ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อสั่งการดำเนินการต่อไป

หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการ พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก. ,พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เกียรติชัย มีสุข หน.ชุด ปปส.สภ.เมือง สืบสวนสอบสวนจนทราบเครือข่ายและมีพยานหลักฐานชัดเจน พร้อมเส้นทางการโอนเงิน โดยมีพลเมืองดียืนยันว่า พระภิกษุรูปดังกล่าว เป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ หรือ พระตุ๊ด มักแปลงกายเป็นฆราวาสขับรถ จยย.ตระเวนเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ตอนกลางคืน และเคยก่อเหตุใช้เหล็กแป๊บทำร้ายร่างกายหนุ่มคู่ขาที่นอกใจไปนอนกับผู้หญิงอื่น โดยพระภิกษุรูปดังกล่าวมักแต่งกายชุดฆราวาส (ชุดนอน) เสพยาไอซ์ในกุฏิในวัดดังกล่าว เชื่อว่า มียาเสพติดยาบ้า ยาไอซ์ อยู่ในครอบครองจำนวนหนึ่งด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนบุกตรวจค้นจับกุมทันที โดยเมื่อเดินทางเข้าตรวจค้นจับกุม และขออนุญาตกับทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว แจ้งพฤติกรรมของพระปลัดสมเกียรติ สุถิตฺสิโก หรือ นายสมเกียรติ คุ้มวงศ์ อายุ 42 ปี พรรษา 3 หรือ ท่านโต้ง ให้ทราบ และขออนุญาตจับกุม ทางท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาส จึงอนุญาตให้จับกุม เพราะไม่อยากให้ศาสนามัวหมอง เพราะบุคคลที่บวชเป็นพระ แต่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กำลังตำรวจจึงบุกกุฎิพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง โดยพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง ตะโกนถามด้วยเสียงดุดันว่า ใครก่อนเปิดประตูออกมาด้วยความไม่พอใจ โดยพบว่าพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง อยู่ในชุดฆราวาส โดยสวมชุดนอนสีดำ ไม่ได้ห่มจีวร แต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมบัตรพนักงาน ปปส.ทำการตรวจค้น พบยาไอซ์หนัก 10 จี ,ยาบ้า 1 เม็ด อุปกรณ์การเสพ 1 ชุด และวัตถุทางเพศ เป็นอวัยวะเพศหญิงเทียม ทำด้วยยางซิลิโคน 1 ชิ้น โดยพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง ให้การรับสารภาพ แต่โดยดี ยินดีให้ความร่วมมือติดต่อล่อซื้อยาบ้า ยาไอซ์ จากเครือข่าย ส่วนวัตถุทางเพศลามกอนาจาร ที่พบในกุฏิ อ้างว่าเป็นของลูกศิษย์ผู้ชายวัยรุ่นที่มาเยี่ยมที่กุฏิฝากเอาไว้เท่านั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ซ่อนตัวอยู่ในกุฏิ และในวัด ก่อนให้พระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง ติดต่อนายเกียรติศักดิ์ จันทร์เพชร หรือ เจมส์ อายุ 35 ปี พนักงานไรเดอร์บริษัทหนึ่ง ให้นำยาไอซ์ 10 จี มาส่งที่กุฏิ แต่เนื่องจากนายเกียรติศักดิ์ หรือ เจมส์ ติดภารกิจมาช้า พระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง โทรสอบถามพร้อมเร่งให้ส่ง โดยนายเกียรติศักดิ์ หรือ เจมส์ ถามย้ำว่า ปลอดภัยไหม อยู่กับใคร พระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง กล่าวตอบอย่างไร้พิรุธว่า กูอยู่กับผัว มึงอย่าช้า รีบมาด่วน ในที่สุดนายเกียรติศักดิ์ หรือ เจมส์ ขี่รถ จยย.เข้ามาจอดหน้ากุฏิ และเปิดประตูเข้า เจ้าหน้าที่จึงกรูคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม ท่ามกลางความตกใจหน้าซีดของนายเกียรติศักดิ์

จากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดของกลางในตัวนายเกียรติศักดิ์ และใน รถ จยย.ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แม้เจ้าหน้าที่จะนำหลักฐานการพูดคุยกับพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง สั่งซื้อยาไอซ์ มายืนยัน แต่นายเกียรติศักดิ์ ยังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่า มาหาพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านงโต้ง เพื่อทวงหนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง ไปให้ท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาส ทำการสึกตามขั้นตอน โดยทางเจ้าคุณ เจ้าอาวาสระบุว่า คงไม่ต้องสึก เพราะไม่ได้ห่มจีวรอยู่ในชุดฆราวาสอยู่แล้ว ที่สำคัญมีพฤติกรรมแบบนี้ ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว อย่างไรก็ตามพระปลัดสมเกียรติ หรือ ท่านโต้ง กล่าวยอมรับว่า ตนเองขาดจากความเป็นพระไปแล้ว และยังลั่นวาจาสึกขาดจากความเป็นพระตามขั้นตอน พร้อมยินดีให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

จึงควบคุมตัวไปลงบันทึกการจับกุม ตรวจปัสสาวะทั้งนายสมเกียรติ คุ้มวงศ์ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ ท่านโต้ง ” และนายเกียรติศักดิ์ จันทร์เพชร หรือ “ เจมส์ ” พบว่ามีสารเสพติดในกระแสเลือดทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ คุ้มวงศ์ หรือ “ ท่านโต้ง ” ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเพทที่ 1(ยาบ้า ,ยาไอซ์)ไว้ในครอบตรองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบา ,ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายเกียรติศักดิ์ จันทร์เพชร ดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบา ,ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะควบคุมตัวนายสมเกียรติ หรือ อดีตพระปลัดสมเกียรติ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายเกียรติศักดิ์ จันทร์เพชร ยอมรับสารภาพ และนำยาเสพติดของกลางมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นายเกียรติศักดิ์ ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด นายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” จึงแจ้งกับตำรวจว่า จะติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายรายอื่น ๆให้ตำรวจอีกก็ได้ ซึ่งมีอีกหลายราย ทางตำรวจจะได้ สอบสวนสืบสวนขยายผลพลต่อไป และอาจจะมีการใช้ พ.ร.บ.ฟอกเงินตรวจสอบและยึดทรัพย์สินของนายสมเกียรติ หรืออดีตพระปลัดสมเกียรติ

ล่าสุดเพิ่งซื้อรถเก๋งมือ 2 ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน ขก - 5958 นครศรีธรรมราช ได้เพียง 2 วัน หากพบว่ารถยนต์เก๋งและทรัพย์สินใดที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดจะตรวจยึดเช่นกัน หลังการจับกุมประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาทำบุญและกราบไหว้ขอพรท่านเจ้าคุณ เจ้าอาวาส ต่างพากันสาปแช่งนายสมเกียรติ หรืออดีตพระสมเกียรติ หรือ “ท่านโต้ง” ที่ทำให้วัด และศาสนา รวมทั้งท่านเจ้าคุณ พลอยเสื่อมเสีย มัวหมองไปด้วย ทั้งที่ท่านจ้าคุณ เจ้าอาวาสเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธทั่วไปเป็นที่ประจักษ์

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ