เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม หรือ Atlantic Meridional Overturning Circulation (AMOC) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระแสน้ำหลักของโลกในมหาสมุทรแอตแลนติก อาจล่มสลายลงภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า หากโลกยังคงสร้างมลภาวะและทำให้โลกร้อนอยู่เช่นนี้

โดยมีการเผยว่า กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม อาจพังทลายลงราวกลางศตวรรษนี้หรืออาจจะเกิดขึ้นเร็วมากในปี 2025 นี้เลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง อาจนำไปสู่หายนะต่อสภาพอากาศโลกและ ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลก เพราะกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมเป็นกระแสน้ำที่ซับซ้อน ซึ่งทำงานเหมือนสายพานลำเลียงขนาดยักษ์ทั่วโลก มันลำเลียงน้ำอุ่นจากเขตร้อนไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่ซึ่งน้ำจะมีอุณหภูมิเย็นลง กลายเป็นน้ำเค็มมากขึ้น และจมลึกลงไปในมหาสมุทร ก่อนจะกระจายลงทางใต้

นอกจากนี้ กระแสน้ำอุ่นนี้ยังมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิอากาศ เพราะช่วยควบคุมรูปแบบ (Pattern) ของสภาพอากาศทั่วโลก การล่มสลายของมันจะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่รุนแรงมากขึ้น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางส่วนของยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงเปลี่ยนการเคลื่อนตัวของลมมรสุมในเขตร้อน

หากยังมีการปล่อยให้โลกร้อนแบบนี้ขึ้นเรื่อย ๆ มันจะทำให้ มหาสมุทรร้อนขึ้นและน้ำแข็งละลาย น้ำจืดจะไหลลงสู่มหาสมุทรมากขึ้น ลดความหนาแน่นของน้ำ ทำให้น้ำจมหรือหมุนเวียนลงไปด้านล่างได้น้อยลง เมื่อน้ำจืดเกินไป อุ่นเกินไป หรือทั้งสองอย่าง กระแสน้ำก็จะหยุดทำงาน

ปีเตอร์ ดิตเลฟเซน ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ทำให้พวกเขาคาดการณ์ด้วยความมั่นใจสูงว่า มันอาจปิดตัวลงหรือล่มสลายอย่างเร็วที่สุดในปี 2025 ไม่เกินปี 2090 แต่ช่วงเวลาที่น่าจะเกิดการล่มสลายมากที่สุดอยู่ระหว่างปี 2039-2070

ส่วน ปีเตอร์ เดอ เมโนแคล ประธานสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮล ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการค้นพบนี้ ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า การล่มสลายของกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมจะส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกนี้ เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก

ขอบคุณ CNN

เรียบเรียง siamnews